อยากลดน้ำหนัก ต้องรู้กับ 10 เหตุผลที่ไม่ควรลดด้วยการอดอาหาร
อยากลดน้ำหนัก แต่ใช้วิธีลดน้ำหนักแบบผิดๆ ซึ่งวิธีหนึ่งที่สาวๆ หลายคนชอบใช้ก็คือ การอดอาหาร เพราะนอกจากจะไม่ช่วยทำให้น้ำหนักลดลงได้แล้วมันอาจส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้แล้วยังทำให้ร่างกายมีอาการผิดปกติและยังเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้เกิดโรคเรื้อรังตามมามากมาย ซึ่งผลเสียต่อร่างกายจะมีอะไรบ้างเมื่อคุณอดอาหารเพื่อลดความอ้วนมาดูกันเลยดีกว่า
1. แม้น้ำหนักจะลดแต่ไม่ช่วยให้ผอม
แม้การอดอาหารจะทำให้น้ำหนักลดลงได้อย่างรวดเร็วก็จริงอยู่ แต่การอดอาหารไม่ใช่วิธีที่จะทำให้ผอมลงได้อย่างแน่นอน เพราะว่าที่ลดน่ะไม่ใช่ไขมันที่สะสมอยู่ตามร่างกายของเรา หากแต่เป็นน้ำหนักของมวลกล้ามเนื้อต่างหากที่ลดลง ใครที่คิดจะลดความอ้วนด้วยการอดอาหารคิดผิดคิดใหม่ได้นะ
2. อดอาหารพาลให้ไม่อยากออกกำลังกาย
คนที่กินบ้างไม่กินบ้างอยู่เป็นประจำนั้นก็ไม่รู้ว่าจะเอาเรี่ยวแรงจากไหนมาออกกำลังกาย ซึ่งจะเป็นการเผาผลาญไขมันได้ดีที่สุด แถมยิ่งอดเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้อ้วนขึ้นเท่านั้น ฉะนั้นแล้วใครที่อยากหุ่นดี หุ่นสวยก็ควรหันมากินให้ครบทุกมื้อจะดีกว่า โดยเฉพาะมื้อเช้าเนี่ยไม่ควรพลาดเลย เพราะร่างกายมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับพลังงานสำหรับการเรียนและการทำงานเป็นอย่างยิ่ง
3. ถ้าอดอาหารออกกำลังกายไปก็เท่านั้น
ผู้ที่ไปออกกำลังกายโดยไม่ได้กินมื้อเช้าหรืออดอาหาร ก็จะเป็นการไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใดทั้งสิ้น เพราะว่าคนที่อดอาหารจะมีภาวะน้ำตาลในเลือดขาดความสมบูรณ์เป็นผลให้ไม่มีแรงที่จะออกกำลัง ออกกำลังไปได้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องหยุด เมื่อไม่ออกกำลังน้ำหนักก็เลยไม่ลดสักที ทางที่ดีจึงไม่ควรอดอาหารจะดีกว่า
4. ยิ่งอดมื้อเช้า ยิ่งอ้วนขึ้น
ผู้ที่ละเลยมื้อเช้าเป็นประจำนั้น จะมีความรู้สึกอยากที่จะกินอาหารฟาสต์ฟู้ดเพิ่มขึ้นสูงมากทีเดียวเมื่อเทียบกับผู้ที่กินมื้อเช้าเป็นประจำทุกวันและจะหิวเอามากๆ ในช่วงเวลาเย็น ส่วนอาหารที่เลือกกินประทังความหิวนั้นก็มักจะเป็นอาหารจำพวกไขมันและคอเลสเตอรอลสูงเป็นส่วนใหญ่ มิน่าล่ะ! ยิ่งอดยังไงก็ยิ่งอ้วน
5. อดอาหารทำให้กินมากขึ้นกว่าเดิม
หากคุณอดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่งจะมีผลให้ฮอร์โมนเลปติน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่จะบอกให้ร่างกายรับรู้ว่าอิ่มแล้วจะทำหน้าที่ได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ นอกจากนี้แล้วการที่คุณอดอาหารก็จะทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนความเครียดออกมามากขึ้น ผลที่จะตามมาหลังจากนั้นเมื่อมื้อต่อไปมาถึงก็คือคุณก็จะกินแบบไม่บันยะบันยัง กินแบบห้ามตัวเองไม่ได้ กินแบบไม่มีเบรกเลยทีเดียว แล้วลองคิดสิว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับร่างกายของเรา
6. มีปัญหาในการย่อย
หากเรามีพฤติกรรมในการทานอาหารแบบไม่ค่อยเป็นเวลาก็จะมีผลต่อกระบวนการย่อยอาหารในร่างกายของเราด้วย เนื่องจากการย่อยอาหารในร่างกายของเรานั้นถูกสร้างออกมาให้มีการทำงานอย่างเป็นระบบและเป็นเวลา ถ้าต้องการให้ระบบย่อยอาหารและกระบวนการเมตาบอลิซึมในร่างกายเป็นไปได้ด้วยดีแล้ว ยังไงก็ควรทานอาหารให้ครบทุกมื้อ และทานให้เป็นเวลาด้วยนะ
7. เกิดปัญหาไขมันสะสม
เมื่อคุณอดอาหารคุณก็กำลังจะสร้างความสับสนให้แก่ร่างกายโดยไม่รู้ตัว เพราะร่างกายจะเข้าใจผิดคิดว่าคุณปล่อยให้หิวโหย ถึงมื้อถัดไปคุณจะทานเร็วกว่าเดิม แต่ถ้ากระบวนการนี้เริ่มต้น ก็จะทำให้เกิดการสะสมไขมันภายในร่างกาย เพื่อที่จะเก็บเอาพลังงานไว้ใช้ในยามที่ขาดอาหาร การอดอาหารจึงไม่เพียงไม่สามารถที่จะลดความอ้วนได้เท่านั้น แต่ยังเป็นการสะสมไขมันเก็บเอาไว้ในร่างกายอีกด้วย
8. อดอาหารเพียงหนึ่งมื้อก็มีสิทธิ์เป็นโรคเรื้อรัง
หากคุณไม่อยากเพิ่มโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดอาการอักเสบจนกลายเป็นโรคเรื้อรังตามมาแล้วละก็คุณก็ไม่ควรอดอาหารแม้แต่มื้อเดียว เพราะหากให้เทียบระหว่างคนที่มีสุขภาพแย่กับคนที่มีสุขภาพดีแล้ว คนที่มีสุขภาพแย่ย่อมมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเรื้อรังสูงกว่าแน่นอน และคนที่ร่างกายไม่ค่อยจะแข็งแรงนักเหล่านี้ ก็มักติดนิสัยที่ชอบละเลยเรื่องอาหารการกินด้วยสิ
9. เสี่ยงที่จะเป็นโรคขาดสารอาหาร
ในวันหนึ่งๆ ร่างกายของเราควรที่จะได้รับสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่และควรที่จะได้ทานให้ครบ 3 มื้อด้วยจึงจะได้รับสารอาหารอย่างพอเพียงตามที่ร่างกายต้องการ และหากขาดสารอาหารไปตัวใดตัวหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นคาร์โบไฮเดรต ไขมัน โปรตีน วิตามิน และเกลือแร่ คุณก็เข้าข่ายผู้มีความเสี่ยงต่อภาวะขาดสารอาหารแล้ว ผลที่จะตามมานอกจากจะทำให้รู้สึกไม่มีเรี่ยวแรงแล้ว ยังทำให้ระบบประสาทและสมองทำงานผิดปกติ และเสี่ยงที่เกิดโรคอื่นๆ ตามมาอีกเพียบ
10. อดอาหารเป็นประจำทำให้เป็นโรคง่าย
มื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญสำหรับร่างกายในการรักษาความสมดุลของระดับคอเลสเตอรอล ฮอร์โมน อินซูลิน และความดันโลหิต หากอดมื้อเช้าอยู่เสมอๆ การทำงานในส่วนนี้ของร่างกายก็จะเกิดการแปรปรวนไปหมด เป็นผลทำให้ร่างกายขาดความสามารถที่จะต้านทานกับโรคภัยใดๆ ได้ จนเป็นที่มาของโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคเรื้อรังมากมาย
คงรู้แล้วใช่ไหมว่าถ้า อยากลดน้ำหนัก การอดอาหารเพื่อลดน้ำหนักนั้นเป็นวิธีคิดที่ผิดเพียงใด ทางที่ดีควรทานให้ครบทุกมื้อให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างพอเพียงต่อความต้องการแล้วหาเวลาไปออกกำลังกายเป็นประจำจะดีกว่านะ
ลดความอ้วนเร่งด่วน 10 วิธีผอมทันใจ ใครๆ ก็ทำได้
ลดความอ้วนเร่งด่วน 10 วิธีผอมทันใจ ใครๆ ก็ทำได้ เรื่องของการลดความอ้วน อยากลดน้ำหนัก มักจะเป็นประเด็นที่น่าสนใจเสมอ เพราะการลดความอ้วนนั้น ไม่ได้แค่ทำให้รูปร่างดูดีขึ้นเท่านั้น แต่การควบคุมน้ำหนักไม่ให้มากเกินไป ยังเป็นผลดีกับสุขภาพโดยรวมอีกด้วย เพราะหากปล่อยให้ความอ้วนสะสมไปนานๆ อาจจะเป็นที่มาของโรคร้ายอื่นๆ เช่น โรคกระดูก โรคหัวใจ และไขมันอุดตันในเส้นเลือด เป็นต้น
และในบรรดาวิธีลดน้ำหนักส่วนใหญ่มักจะต้องใช้เวลาพอสมควร แต่ถ้าสมมุติว่าคุณอาจจะต้องเป็นเจ้าสาวหรือเจ้าบ่าว ในอีก 1 เดือนข้างหน้า และต้องการให้ตัวเองดูดีที่สุดในวันสำคัญ เราก็มีวิธีลดความอ้วนเร่งด่วนที่ทำง่าย และไม่เป็นอันตรายมาฝากให้ได้ลองทำกันดู ไม่แน่ว่าคุณอาจจะประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักจากวิธีการเหล่านี้ก็ได้
1. ลดแป้ง
วิธีลดความอ้วนเร่งด่วน ขอเน้นว่าให้ลด ไม่ใช่งด เพราะร่างกายของเรายังต้องการแป้ง จากข้าวหรือขนมปังไปผลิตเป็นน้ำตาล เพื่อใช้เป็นพลังงานในร่างกายอยู่ สำหรับการลดแป้ง อาจจะเริ่มจากงดกินขนมขบเคี้ยว งดกินข้าวขาวหันมากินเป็นข้าวที่ไม่ขัดสีหรือธัญพืชแทน เพราะแป้งเป็นหนึ่งในเมนูที่ทำให้อ้วนได้มากที่สุด และถ้ารู้สึกว่าต้องลดความอ้วนแบบเร่งด่วนจริงๆ อาจจะให้ในมื้ออาหาร มีมื้อที่ทานแป้ง เหลือเพียงมื้อเดียว คือ เช้า หรือเที่ยง เท่านั้น
2. เดินให้บ่อยขึ้น
เดินให้บ่อยขึ้น อาจจะไม่ได้หมายถึงการเดินจริงๆ เพราะที่เราต้องการ คือ การได้ขยับแข้งขยับขาบ้าง และสำหรับคนที่ต้องนั่งทำงานในออฟฟิศ ทั้งวันอาจจะใช้วิธีการขยับขาไปมา เชื่อหรือไม่ว่า แค่นั่งขยับขาเฉยๆ ทั้งวัน พลังงานก็หายไปหลายร้อยแคลอรี่แล้ว
3. กินกล้วยหอมเป็นมื้อเช้า
กินกล้วยหอมเป็นมื้อเช้า ว่ากันว่ากล้วยหอม 2 ลูกทำให้เราอิ่ม ไม่ต่างอะไรกับการกินข้าวเป็นจานๆ เลยทีเดียว แต่ให้พลังงานที่แตกต่างกันพอสมควร เพราะฉะนั้นหากต้องการจะลดน้ำหนัก แนะนำว่าให้กินกล้วยหอมสลับกับผลไม้อื่นๆ ในมื้อเช้าจะดีกว่า
เพราะในช่วงเช้าเราจะยังไม่หิวมากแต่อดไม่ได้ เพราะหากอดมื้อเช้าจะทำให้ระบบเผาผลาญในร่างกายเกิดอาการรวนได้ และถ้าหาก 2 ลูกไม่พอ เราอนุโลมให้กินจนกว่าอิ่ม เพราะกล้วยหอมเป็นผลไม้ที่มีสารอาหารสูง และมีเส้นใยที่สูงเช่นเดียวกัน มื้อนี้แนะนำว่าให้จัดให้เต็มที่จะดีที่สุด
4. จิบกาแฟช่วยเผาผลาญ
จิบกาแฟช่วยเผาผลาญ ขอแนะนำว่าถ้าจะให้ดีควรเป็นกาแฟดำที่ไม่ใส่อะไรเลย นอกจากกาแฟกับน้ำเปล่า แต่หากทำใจให้กินไม่ได้จริงๆ ก็อนุโลมให้ใส่สารให้ความหวานแทนน้ำตาลได้ไม่เกิน 1 ช้อนชา คาเฟอีนในกาแฟนอกจากจะทำให้ร่างกายตื่นตัวแล้ว ยังกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญให้ทำงานได้อย่างต่อเนื่องยาวนานถึง 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับการดื่มกาแฟในมื้อบ่าย ไม่ควรดื่มหลังจาก 15.00 เพราะไม่อย่างนั้น อาจจะส่งผลในเรื่องของการนอนหลับได้
5. จิบชาเขียวร้อนหลังมื้ออาหาร
จิบชาเขียวร้อนหลังมื้ออาหาร รู้หรือเปล่าว่าทำไมชาวต่างชาติถึงชอบจัดมื้อทีเบรก หรือมื้อดื่มชาเอาไว้ช่วงบ่าย เพราะเป็นช่วงที่ไม่ควรดื่มกาแฟอีกต่อไป แต่เมื่อร่างกายต้องการความสดชื่น การดื่มชาเป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่ง และสำหรับช่วงหลังมื้ออาหาร แนะนำว่าควรเป็นชาเขียวร้อนจะดีที่สุด เพราะชาเขียวร้อนที่ไม่ใส่น้ำตาล นอกจากจะมีสารต้านอนุมูลอิสระแล้ว ยังช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญได้เป็นอย่างดี
6. ดื่มน้ำเปล่าก่อนกินข้าว
ดื่มน้ำเปล่าก่อนกินข้าว เรียกง่ายๆ เป็นการลดพื้นที่ในกระเพาะให้กินข้าวได้น้อยลงนั่นเอง สำหรับมื้ออาหารเที่ยง แนะนำให้ดื่มน้ำเปล่าเข้าไปก่อน 1 แก้ว แล้วค่อยทานอาหาร การดื่มน้ำเปล่าจะช่วยให้อิ่มเร็วขึ้น และกินอาหารได้น้อยลงกว่าที่เคย
7. เปลี่ยนจากขนมเป็นผลไม้
เปลี่ยนจากขนมเป็นผลไม้ในช่วงระหว่างวัน เชื่อว่าหลายคนที่กำลังลดน้ำหนักอยู่ อาจจะเกิดอาการอยากกินขนมหรือของหวานขึ้นมา เราก็ไม่ได้ใจร้ายให้คุณอด เพียงแต่ว่าต้องเปลี่ยนจากขนมขบเคี้ยวเป็นผลไม้ที่กินแล้วไม่อ้วน เช่น ชมพู่ ส้ม เบอร์รี่ ฝรั่ง เป็นต้น ผลไม้เหล่านี้ให้ปริมาณน้ำตาลที่ไม่มาก และมีเส้นใยอาหารเยอะ ทำให้กินแล้วรู้สึกอิ่มเร็วและสดชื่นขึ้น แต่รับรองได้เลยว่าน้ำหนักไม่ขึ้นอย่างแน่นอน
8. จัดให้มีผักหรือผลไม้ทุกมื้ออาหาร
จัดให้มีผักหรือผลไม้ทุกมื้ออาหาร ไม่ว่าจะเป็นเช้า เที่ยง เย็น หรือมื้ออาหารว่าง ก็ให้เน้นเป็นเมนูผักและผลไม้ด้วย นอกจากจะมีเส้นใยอาหารสูงแล้ว ยังอุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ต่างๆ รับรองได้เลยว่า เมื่อลดน้ำหนักเสร็จแล้ว นอกจากจะได้หุ่นที่ดียังจะได้ผิวพรรณที่ดีจากการกินผักผลไม้เป็นประจำ
9. ลดการกินโซเดียม
บรรดาเครื่องปรุงทั้งหลายที่ทำให้รสชาติอาหารอร่อยขึ้นหรือพวกอาหารกึ่งสำเร็จรูป ขอให้เลี่ยงเลยจะดีที่สุด เพราะมีทั้งแป้ง ไขมัน และโซเดียม โดยเฉพาะการกินโซเดียมมากเกินไปจะทำให้ตัวบวมได้ง่ายๆ ฉะนั้นอาหารที่ทำกินเองก็ควรลดเกลือหรือโซเดียมให้น้อยลง เปลี่ยนมาใช้เครื่องปรุงโซเดียมต่ำหรือปรุงให้น้อยที่สุด
10. กินมื้อเย็นก่อนอาทิตย์ตก
กินมื้อเย็นก่อนอาทิตย์ตก มื้อเย็น ควรกินไม่เกิน 6 โมงเย็น และเน้นเป็นอาหารเบาๆ หรือผลไม้อย่างเดียวไปเลยก็ได้ เพราะในช่วงกลางคืน ร่างกายต้องการนอนหลับพักผ่อน จึงไม่ต้องใช้พลังงานมากมายอะไร หรือถ้าหากว่ากลัวจะหิวกลางดึก อาจจะมีน้ำเปล่าไว้ข้างเตียงซักขวด สำหรับดื่มรองท้อง พร้อมกันนี้ควรนอนให้เร็วขึ้นด้วย เพราะเมื่อนอนเร็ว ร่างกายก็จะไม่ใช้พลังงาน และไม่รู้สึกหิว
นี่เป็นอีกหนึ่งในหลายๆ เทคนิคการลดความอ้วนที่ไม่ก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย เพราะเราไม่เน้นการอดอาหาร แต่เน้นการกินให้เป็นเวลา ควบคุมปริมาณอาหาร และพลังงาน ให้เหมาะสมกับกิจกรรมในแต่ละช่วงเวลาของวัน หากทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกายยิ่งดี รับรองได้เลยว่าคุณจะมีหุ่นที่ดีได้ในเวลาไม่ถึง 1 เดือนอย่างแน่นอน
เมนูอาหารลดน้ำหนัก กับ 8 ของกินเล่นลดความอ้วนที่คนชอบกินจุบจิบควรรู้
กิจกรรมอย่างหนึ่งที่หลายคนชอบทำเมื่อมีเวลาว่างหรือชอบทำในระหว่างทำงานก็คือการกิน ถ้ากินแล้วไม่ได้มีผลอะไรเกิดขึ้นกับร่างกายก็ดีไป แต่ถ้ากินแล้วไขมันถามหาดูเหมือนว่าจะอ้วนเอาๆ นี่สิปัญหา เพราะอาการชอบกินจุบจิบนี่หลายคนก็ติดเป็นนิสัยจนไม่รู้จะแก้ยังไง จะให้ตัดอกตัดใจก็ทำใจยากอยู่ แต่ขณะเดียวกันก็ยังอยากมีรูปร่างที่ดูดี เลยต้องร้องขอทางเลือกแบบทูอินวัน คือยังไงก็ขอให้ได้กินแล้วก็ขอให้น้ำหนักตัวลดลงด้วยจึงจะโดนใจ วันนี้เราเลยมี เมนูอาหารลดน้ำหนัก สำหรับใครที่ต้องการหาของกินเล่นเพลินๆ แถมยังได้เบิร์นไขมันไปด้วยในเวลาเดียวกัน
1. ขนมปังโฮลวีท
ขนมปังโฮลวีทเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ชอบกินขนมปังแต่ก็กลัวอ้วน เนื่องจากมีกากใยอาหารที่สูงมากจากเมล็ดธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสี จึงช่วยให้ระบบการย่อยทำงานได้ดีขึ้น ทำให้ไม่มีอาการท้องผูก ระบบขับถ่ายดี จึงมีส่วนช่วยในการลดความอ้วนได้นั่นเอง
2. ถั่ว
แม้จะได้ชื่อว่าให้พลังงานและไขมันสูง แต่ถั่วก็ยังมีประโยชน์มากมายที่ส่งผลดีต่อการลดน้ำหนัก เนื่องจากถั่วมีไฟเบอร์สูงและยังอุดมไปด้วยโปรตีนและแร่ธาตุเป็นจำนวนมาก จึงทำให้อิ่มท้องได้นาน อีกทั้งไขมันในถั่วยังเป็นไขมันชนิดดีที่ช่วยลดคอเลสเตอรอลได้ และถั่วบางชนิดยังมีโอเมก้า 3 ที่ช่วยในการลดไขมันอีกด้วย แต่ยังไงก็ควรเลือกทานในปริมาณที่เหมาะสม เลือกทานถั่วที่เป็นรสชาติธรรมชาติ ไม่ใช้เกลือปรุงรสและควรหลีกเลี่ยงถั่วทอดและถั่วที่เคลือบปรุงรสด้วยผงปรุงรสต่างๆ ด้วยนะ
3. โยเกิร์ตรสธรรมชาติ
หากจะกินโยเกิร์ตเพื่อลดความอ้วนก็ไม่ควรเลือกกินตามใจชอบ แต่ควรต้องเป็นโยเกิร์ตรสธรรมชาติเท่านั้น เพราะนอกจากจะไม่มีส่วนผสมอย่างอื่นที่ทำให้กินแล้วอ้วน โยเกิร์ตรสธรรมชาติยังมีปริมาณน้ำตาลต่ำสุด ซึ่งน้ำตาลนี่เองที่เป็นตัวการสำคัญที่จะทำให้อ้วน และควรเลือกโยเกิร์ตชนิดที่มีวิตามินดีสูง เพราะวิตามินดีสำคัญต่อร่างกายในการดูดซึมแคลเซียมไปใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ระบบเผาผลาญและลดน้ำหนักและควรระวังฉลากที่ระบุว่าโยเกิร์ตไขมันต่ำให้ดี เพราะอาจมีปริมาณน้ำตาลสูงและให้พลังงานสูงก็ได้
4. ฟักทองอบ
ฟักทองอบเป็นขนมขบเคี้ยวที่สามารถทำกินเองได้ง่ายๆ แค่เอาฟักทองมาฝานเป็นชิ้นบางๆ จะปอกเปลือกออกก่อนหรืออบทั้งเปลือกเลยก็ได้ แล้วเอาเข้าเตาอบประมาณ 10–15 เสร็จแล้วใส่เกลือเล็กน้อยก็ทานได้แล้ว ฟักทองได้ชื่อว่ามีคุณค่าทางสารอาหารสูงมาก มีกากใยอาหารสูง มีแคลอรี่ต่ำ ไขมันน้อย จึงเหมาะที่จะเป็นของกินเล่นยามว่างของผู้ที่ต้องการจะลดน้ำหนักเป็นอย่างยิ่ง
5. เมล็ดฟักทองอบ
นอกจากเนื้อฟักทองจะช่วยลดน้ำหนักได้แล้ว เมล็ดฟักทองยังมีคุณค่าไม่แพ้กันเลยทีเดียว ในเมล็ดฟักทองอุดมไปด้วยแร่ธาตุสังกะสีที่จะช่วยเผาผลาญพลังงานได้เป็นอย่างดี แถมยังช่วยขจัดไขมันบางส่วน ช่วยเรื่องระบบย่อยอาหารและยังทำให้รู้สึกอิ่มท้อง ไม่รู้สึกหิวบ่อยด้วย ใครที่ชอบหิวระหว่างมื้ออาหารต้องคอยหาอะไรใส่ท้องอยู่เป็นประจำ ลองเคี้ยวเมล็ดฟักทองเล่นเพลินๆ ดูสิรับรองได้เอาอยู่แน่นอน
6. เมล็ดทานตะวันอบ
เมล็ดทานตะวันเป็นอีกหนึ่งเมล็ดธัญพืชที่นอกจากจะเหมาะกับการเคี้ยวเล่นเพลินๆ สำหรับคนชอบกินของจุกจิกแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ช่วยในการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี เพราะในเมล็ดทานตะวันมีทั้งวิตามินอีที่ช่วยขจัดสารพิษในร่างกาย แมกนีเซียมที่ช่วยให้ผ่อนคลายและช่วยเผาผลาญแคลอรี่ นอกจากนี้ยังมีโปรตีน วิตามินบี และเส้นใยอาหาร ที่มีส่วนสำคัญสำคัญในการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย และช่วยให้อิ่มท้องนานขึ้นด้วย
7. ดาร์กช็อกโกแลต
แม้จะได้ชื่อว่าเป็นช็อกโกแลตที่หลายๆ คนเข้าใจว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความอ้วน แต่ดาร์กช็อกโกแลตกลับเป็นอีกหนึ่งของกินเล่นยามว่างที่ช่วยในการลดความอ้วนได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว เพราะการทานดาร์กช็อกโกแลตจะช่วยลดความอยากอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลให้ลดน้อยลงได้ และยังมีสารฟลาโวนอยด์ ซึ่งช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดได้เป็นอย่างดี แถมทานแล้วยังช่วยให้มีอารมณ์ดีขึ้นอีกด้วยนะ โดยการทานช็อกโกแลตเพื่อลดน้ำหนักควรมีส่วนผสมของโกโก้ไม่ต่ำกว่า 70% นะ เพราะหากน้อยกว่านั้นมันก็จะเป็นช็อกโกแลตที่เต็มไปด้วยนม น้ำตาล และครีมเทียมเป็นส่วนผสมนั่นเอง
8. ผลไม้ลดความอ้วน
ผลไม้เป็นของทานเล่นยามว่างที่นอกจากจะมีมากมายหลายชนิดให้เลือกแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายแถมยังช่วยลดความอ้วนได้เป็นอย่างดีอีกด้วยไม่ว่าจะเป็น กีวี่ มะเขือเทศ มะละกอ อะโวคาโด สับปะรด บลูเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ ส้ม ฯลฯ ซึ่งก็ล้วนแล้วแต่มีเส้นใยอาหารสูง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของระบบขับถ่าย ช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกาย ลดคอเลสเตอรอล มีคุณสมบัติมากมายขนาดนี้ใครที่กำลังอยู่ในช่วงลดน้ำหนักแต่ก็ชอบกินจุบจิบลองเปลี่ยนจากของมันของทอดเป็นผลไม้ดูไหม
แม้ของกินเล่นเหล่านี้จะมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ถ้ากินมากเกินไปจนทำให้พอถึงมื้ออาหารหลักอาจจะรู้สึกอิ่มจนไม่อยากกินอะไรเลยก็ได้นะ แต่อย่างไรการทานอาหารให้ครบทุกมื้อเพื่อให้ได้รับสารอาหารอย่างพอเพียงต่อความต้องการของร่างกายก็ยังคงเป็นเรื่องจำเป็นที่สุดอยู่ดีสำหรับการทานอาหารเพื่อลดความอ้วน
ถ้าหาก อยากลดน้ำหนัก เร่งด่วน ก็สามารถทำได้จริงแต่จะต้องทำอย่างถูกวิธี เพราะนอกจากจะลดน้ำหนักได้จริงแล้ว ยังทำให้ไม่โยโย่ และไม่เสียสุขภาพด้วย ซึ่งวิธีที่เรานำมาฝากรับรองเลยว่าไม่อันตราย และไม่ทำให้ระบบเผาผลาญของร่างกายเสียอย่างแน่นอน
อ้างอิง
http://women.trueid.net/detail/16412
http://hot.muslimthaipost.com/news/10044
http://www.lovefitt.com/tips-tricks/ลดน้ำหนักด้วยกล้วยหอม-เคล็ดลับหุ่นสวยของสาวๆเเดนอาทิตย์อุทัย/
