ร้านอาหารดัง ชี้พิกัดทั้ง 9 สุดยอดร้านอาหาร มิชลินสตาร์ 3 ดาว

วันนี้เราจะพาทุกท่านมาท่องเที่ยวแบบอิ่มท้อง กับ ร้านอาหารดัง ที่มีการการันตีด้วย มิชลินสตาร์ 3 ดาวสำหรับคนที่ยังไม่รู้จัก มิชลินสตาร์ ผมจะอธิบายคร่าวๆให้ ฟัง มิชลินสตาร์ คือ สุดยอดรางวัลแห่งเกรียติยศสำหรับอาหารที่ดีที่สุดในโลก โดยมีมาตรฐานที่ต้องยึดถือได้แก่ คุณภาพของส่วนผสม , ทักษะในการปรุง , รสชาติ , ความคิดสร้างสรรค์ , ราคาอาหาร และการคงที่ของคุณภาพอาหาร

โดยจะมีนักชิมมิชลินไกด์ ปลอมตัวเป็นลูกค้าเข้าไปชิมประมาณ 3 – 4 ครั้งตลอดระยะเวลา 1 ปี เพื่อดูว่ามีความเสมอต้นเสมอปลายในทุกองค์ประกอบหรือไม่ เรียกได้ว่านี่คือรางวัลที่ได้มาอย่างยากเย็นแสนสาหัส แต่ถ้าร้านไหนมีรางวัล มิชลินสตาร์ ก็จะราวกับห้องอาหารแห่งสรวงสรรค์บนดิน และวันนี้ผมจะพาทุกท่านมารู้จักกับ ร้านอาหาร มิชลินสตาร์ 3 ดาว (ระดับดาวจะมีมาตรฐานต่างกัน 3 ดาวคือยอดเยี่ยมที่สุด)


1. ร้านอาหารดัง L’Auberge du Pont de Collonges ลียง, ฝรั่งเศส

ร้านอาหารดัง

ร้านอาหารที่เป็นตำนานตลอดกาลของ มิชลินสตาร์ 3 ดาว โดยเจ้าของร้านมีนามว่า พอล โบคุลที่สุดแห่งปรมาจารย์ด้านอาหารฝรั่งเศส ผู้ที่ได้รับรางวัลเชฟมิชลินสตาร์ครั้งแรก ในปี 1958 และยังคงได้รับรางวัลมาจนถึงปัจจุบัน ด้วยความโด่งดังทำให้ขยายสาขาออกไปทั่วโลก ทั้งประเทศฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น และครั้งหนึ่ง ในปีพ.ศ. 2557 พอล โบคุล เคยส่งมือขวาเชฟจิลเรนฮาร์ดต์สุดยอดเชฟมิลชินสตาร์3 ดาว ให้มาปรุงอาหารที่ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ อีกด้วย

L’Auberge du Pont de Collonges ภายในร้านตกแต่งอย่างประณีตตั้งแต่ทางเข้าหน้าประตู ให้ความโอ่อ่า ยิ่งใหญ่ ราวกับอยู่ในพระราชวงศ์ปารีส บางส่วนของห้องครัวถูกกั้นเพียงแค่กระจกใส เราจึงสามารถชมการทำอาหารได้เต็มอิ่ม เมนูของที่นี่มีทั้งแบบเป็นเซทและแบบอลาคาร์ท ภาชนะเสริฟทุกชิ้นจะมีลายของ พอล โบคุล เป็นสัญลักษณ์ ถ้าจะพูดถึงอาหารฝรั่งเศสในประเทศฝรั่งเศสแล้วหละก็ ร้านนี้ดีที่สุด หากคุณชอบร้านอาหารสไตล์นี้คุณอาจสนใจบทความ อาหารที่แพงที่สุดในโลก


2.The Waterside Inn เบิร์กเชียร์,อังกฤษ

ร้านอาหารดัง

The Waterside Inn 1 ใน 3 ห้องอาหารชั้นนำของลอนดอนด้วยฝีมือของเชฟมิเชลรูซ์เชฟอาหารฝรั่งเศส มิชลินสตาร์ 3 ดาว ครอบครัวรูซ์มีชื่อเสียงในวงการอาหารของประเทศอังกฤษมากว่า 4 ทศวรรษ จนทำให้เกิดวัฒนธรรมการรับประทานของคนอังกฤษ ห้องอาหารของเขามีความนิยมไปจนถึงระดับราชวงศ์ เขาคือชายที่เป็นอาจารย์ให้กับเหล่าเชพชื่อดังทั่วโลก เช่น Gordon Ramsay และ Marco Pierre White ที่ได้มิชลินสตาร์ 3 ดาวเช่นกัน

ร้านนี้โดดเด่นในเรื่องของที่ตั้งซึ่งมีบรรยากาศโปร่งสบายติดชายน้ำ และขนมอบเพราะเคยได้รางวัล MeilleurOuvrier de France ในสาขาขนมอบในปี 1976รสชาติของอาหารเน้นที่ความนุ่มนวล ละเมียดละไม ไม่เน้นความมัน และให้ความสำคัญกับสุขภาพเป็นหลัก The Waterside Inn คือร้านอาหารฝรั่งเศสอีกร้านที่ไม่ควรพลาด


3. ร้านอาหารดัง 8 1/2Otto e Mezzo Bombana อาคาร Alexandra House ย่าน Central ฮ่องกง

ร้านอาหารดัง

การันตรีด้วยการได้รับมิชลินสตาร์3 ดวง หลายปีติดต่อกัน ติดอันดับ 10 ของ Asia’s 50 Best Restaurant 2014 เกียรติยศที่ยากจะหาผู้ทัดเทียม นี่คือร้านอาหารอิตาเลียนนอกประเทศอิตาลีเพียงร้านเดียวที่ได้มิชลิน 3 ดาว และในปี 2013 ยังได้รับตำแหน่งที่ 39 จาก 100 ร้านอาหารที่ดีที่สุดของโลกด้วย

การตกแต่งภายในร้านให้ความเป็นมิลเลนเนียน ทันสมัยตกแต่งในสไตล์ฉูดฉาด องค์ประกอบของแสง และเพดานสะดุดตา ขึ้นชื่อในเรื่องของ“เห็ดทรัฟเฟิล” โดยเฉพาะทรัฟเฟิลขาว เพราะฉะนั้นเมื่อคุณมาร้านนี้ สิ่งที่คุณพลาดไม่ได้ นั่นคือเมนูอาหารที่มีเห็ดทรัฟเฟิลเป็นหลัก แต่ในส่วนของหวานจะไม่มีอะไรที่เซอร์ไพร์มากนัก แต่ก็รับรองว่าถูกปากแน่นอน


4.สุกิยะบะชิ จิโร กินซ่า ญี่ปุ่น

ร้านอาหารดัง

ร้านซูชิสุดเจ๋งที่ไม่เคยง้อใคร ได้รับมิชลินสตาร์ 3 ดาว ด้วยฝีมือล้วนๆ ไม่ต้องพึ่งองค์ประกอบอื่นๆ เลยเพื่อให้ได้รับรางวัล ร้านนี้ บารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เคยเข้ามาทานด้วยนะครับมีตำนานเชฟ“จิโร โอโนะ” มิชลินสตาร์ 3 ดาว ที่อายุมากที่สุดในโลกเป็นผู้ก่อตั้งและปรุงแต่ง และยังคงทำอาหารอยู่เช่นเคยจนถึงทุกวันนี้ภายนอกร้านบ่งบอกถึงภายในได้เป็นอย่างดี คือไม่มีอะไรเลยนอกจากที่นั่งเพียง 10 ที่ ไม่มีแม้แต่ห้องน้ำให้เข้า ไม่มีเมนูด้วยซ้ำ

ด้วยฝีมืออันเยี่ยมยุทธ์ และการพัฒนาที่ไม่เคยหยุดของ จิโร โอโนะ เขาได้ยกระดับแผงลอยซูชิข้างถนน ให้คนทั้งโลกได้จดจำ และถูกยกย่องให้กลายเป็นปูชนียบุคคลของประเทศญี่ปุ่นในปัจจุบัน คงไม่ต้องบอกนะครับว่าร้านนี้มีอาหารที่เด่นทางด้านไหน


5. ร้านอาหารดัง Nahm สาขาไทย โรงแรม Metropolitan ถนนสาทรใต้

ร้านอาหารดัง

Nahm คือร้านอาหารของ David Thomson ชาวออสเตรเลียที่รังสรรค์อาหารไทยให้ดังไปทั่วโลก เขาหลงใหลในอาหารไทยขนาดฝึกภาษาไทยจนสามารถศึกษาตำราอาหารไทยชั้นสูงได้อย่างคล่องแคล่ว ทั้ง ตำรับสายเยาวภา ตำรับแม่ครัวหัวป่าก์ โดยร้านแรกของเขาเปิดที่ลอนดอน แต่ใครไม่สะดวกไปไกลถึงอังกฤษ ก็มาชิมกันได้ที่สาขา สาทร

โดดเด่นด้วยอาหารไทยแบบไทยแท้ๆ และอาหารไทยโบราณที่ไม่สามารถหารับประทานได้ง่ายๆ บอกตามตรงว่าอาหารบางอย่างคนไทยยังไม่รู้จักด้วยซ้ำ อาหารแนะนำได้แก่ ปลาร้าทรงเครื่อง , น้ำพริกมะขามสด , ต้มโคล้งปลากรอบใบมะขาม , แกงไตปลา , น่องกบผัดเผ็ด แม้ในส่วนของขนมของมีไม่กี่อย่าง แต่คุณจะได้พบกับอาหารไทยที่ไม่เคยพบมาก่อนแน่นอน


6.SraBua by KiinKiin กรุงเทพ โรงแรม Siam Kempinski

ร้านอาหารดัง

เชฟเฮนริคอูล-แอนเดอร์เซน ชาวเดนมาร์ค ผู้ที่ได้รับมิชลินสตาร์ 3 ดาวชายผู้ที่ชื่นชอบอาหารไทยท้องถิ่นจนถอนตัวไม่ขึ้น จนให้กำเนิดห้องอาหาร  SraBua ที่ติดอันดับ 1 ใน 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชียสร้างสรรค์เป็นเมนูอาหารไทยในรูปแบบใหม่ที่ยังคงรสชาติความเป็นไทยนำเสนอเทคนิคแปลกๆ ให้กับจานอาหาร จนไม่อาจคาดเดารสชาติที่แท้จริงหากไม่ได้ลองชิม เช่นแกงเผ็ดที่หน้าตามาเป็นไอศครีม ดูคล้ายขนมแต่รสชาติยังคงเป็นแกงเผ็ด ภายในร้านโดดเด่นด้วยสระบัว ตกแต่งสไตล์โมเดิร์นและยังมีเครื่องดื่มที่หลากหลายทั้งไวน์ ค็อกเทล และน้ำผลไม้ ใครที่ชื่นชอบอาหารไทยแนวผสมผสานรับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน


7. ร้านอาหารดัง ติ่นไท่ฟงสาขาไทย กรุงเทพ Central World ชั้น 7, Central Embassy ชั้น 5, Central Plaza Ladprao

ร้านอาหารดัง

ติ่นไท่ฟงภัตตาคารอาหารจีนชื่อดังสไตล์ไต้หวัน มีอายุมานานกว่า 40 ปี เน้นที่การคัดสรรวัตถุดิบ และเทคนิคการทำ การปรุงที่เรียบง่ายเน้นคุณค่าทางอาหาร ใช้น้ำมันน้อย และมีไขมันน้อย ใช้ศิลปะการปรุงอย่างปราณีตได้มาตรฐานทุกจาน ถูกจัดอันดับเป็น 1 ใน 10 ร้านอาหารที่ดีที่สุดของโลกโดยนิวยอร์คไทมส์ปัจจุบัน มีมากกว่า 100 สาขาทั่วโลก นับว่าเป็น เมนูอาหารจีนที่คนไทยชื่นชอบมากที่สุด โดยในส่วนของประเทศไทยจะมีทั้งหมด 3 สาขา ได้แก่Central World ชั้น 7, Central Embassy ชั้น 5, Central Plaza Ladprao

ร้านนี้โดดเด่นในเรื่องของ อาหารนึ่ง และผัดอาหารจานเด่นคือ เสี่ยวหลงเปาที่ใช้แผ่นแป้งเนื้อเนียนนุ่ม และไส้ที่ปรุงได้กลมกล่อม จับเป็นจีบปิด 18 จีบอย่างงดงาม ที่สาขา Central World มีที่นั่งรองรับประมาณ 200 ที่นั่ง สามารถไปลองชิมกันได้ ที่สำคัญราคาไม่ทำให้กระเป๋าฉีกแน่นอน


8.D’sens กรุงเทพ โรงแรมดุสิตธานี

ร้านอาหารดัง

เชฟฌาคส์ และ โครองต์ปูร์แซล คือพี่น้องฝาแฝดที่ได้รับมิชลินสตาร์ 3 ดาว สร้างชื่อให้ตัวเองด้วยอาหารฝรั่งเศส D’sens ตั้งอยู่ที่โรงแรมดุสิตธานีชั้น 22 ทำให้มีวิวของกรุงเทพที่งดงามมากหาว่ามาทานอาหารเวลากลางคืน เน้นการใช้แสงไฟให้ความโรแมนติกเป็นเอกลักษณ์ มีทั้งในส่วนของ Restaurant และก็เป็น Bar เมนูอาหารจัดแบบเป็นเซต อาหารแนะนำได้แก่ กุ้งมังกรเทอรีนกับตับเป็ด, ฟีเลปลาซีบาส , นกพิราบอบซ๊อสกระหรี่ผสมกับอัลมอลท์ Lobster ที่เสิร์ฟพร้อมราวิโชรี่หัวไชเท้า, ซุปเกาลัดและทรัฟเฟิล,นกพิราบพันธุ์พิเศษที่เอามาแล่ฟิเล, ปลาทูบอตจากทะเลแอตแลนติก เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในร้านอาหารในเมืองที่ไม่ควรพลาดเลยก็ว่าได้ โดยการเดินทางสะดวกสบายมี BTS และ MRT ใกล้ๆ ใครชอบอาหารฝรั่งเศสหรือยากดินเนอร์กับคู่รัก D’sens น่าจะตอบโจทย์ได้อย่างลงตัว


9.Restaurant Gordon Ramsay

ร้านอาหารดัง

สุดยอดเชฟมากความสามารถ Gordon James Ramsay ชาวอังกฤษ นอกจากจะเป็นเชฟที่เก่งกาจเขายังเป็นพิธีกรที่มากความสามารถ ไม่ว่าจะเป็น Hell’s Kitchen, The F Word และ Master chef usa เจ้าของรางวัลมิชลินสตาร์มากถึง 15 ดวงและเป็นเพียง 1 ใน 4 เชฟในอังกฤษที่มีมิชลินสตาร์ 3 ดวงRestaurant Gordon Ramsay ร้านอาหารสไตล์ยุโรปสุดหรูหราผงาดขึ้นมาในวงการร้านอาหารโดยใช้เวลาแค่ 3 ปีในการได้รับได้รับมิชลินสตาร์ 3 ดาวและไม่เคยพลาดอีกเลยจนถึงปัจจุบัน มี Clare Smyth เชฟหญิงเป็นหัวหน้าเชฟ และเธอมีค่าเหนื่อยสูงที่สุดบนเกาะอังกฤษ

Restaurant Gordon Ramsay เปิดให้บริการสำหรับมื้อกลางวันและมื้อเย็น ในวันจันทร์ – วันศุกร์ เมนูมีทั้งอาหารมังสวิรัติ คอร์สเมนูตามฤดูกาล และคอร์สเมนูระดับเพรสทิจ ที่ปรุงแต่งรสชาติด้วยส่วนผสมที่มีคุณภาพระดับสูงสุด การเข้ามาทานที่ร้านนี้ต้องจองกันข้าม 2 – 3 เดือนเลยทีเดียว จะกินของดีมันก็ต้องทุ่มเทกันหน่อย


และนี่คือ 9 ร้านอาหารมิชลินสตาร์ 3 ดาวที่คุณไม่ควรพลาด โดยเฉพาะร้านสุดท้าย Restaurant Gordon Ramsay ที่มีเชฟสุดโหดจากราย Master chef usa เป็นยอดพ่อครัว หากใครยังไม่อิ่ม และหลงใหลในอาหาร ทั้งการชิมและการปรุง ผมขอแนะนำรายการแข่งขันทำอาหารที่สุดโหด และจะช่วยให้คุณเจริญอาหารกับเมนูสารพัดรูปแบบที่คิดค้น และรวบรวมเทคนิคขั้นเทพทั้งหมดเอาไว้ในรายการเดียว Master chef usa