เคล็ดลับลดความอ้วน 10 เทคนิค กินอย่างไรให้น้ำหนักลง
เป็นที่รู้กันว่าพฤติกรรมการกินเป็นสำคัญที่ทำให้เราอ้วน และหากจะมองหาวิธีจัดการกับปัญหาเมื่อมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ก็อาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องใช้วิธีแก้ปัญหาที่ยุ่งยากซับซ้อนอะไรมากมาย เมื่อสาเหตุของปัญหามาจากการกิน เราก็ต้องแก้ปัญหาโดยใช้การ “กิน” เหมือนกันนั่นแหละ แล้วจะกินอย่างไรล่ะถึงจะเรียกได้ว่าเป็นการลดความอ้วนให้เราได้ วันนี้เราเลยมี เคล็ดลับลดความอ้วน 10 เทคนิค กินอย่างไรให้ลดความอ้วน มาฝากกัน
1. อาหารเช้าต้องห้ามพลาด
อาหารเช้าถือเป็นมื้อสำคัญที่สุดเลยก็ได้ นอกจากร่างกายมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับพลังสำหรับการทำกิจกรรมต่างๆ แล้ว การอดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่งจะทำให้คุณรู้สึกหิวและหิวมากขึ้นเมื่อมื้อต่อไปมาถึง จนทำให้คุณต้องเผลอกินเข้าไปมากขึ้นกว่าปกติ แล้วจะลดน้ำหนักลงได้ยังไง แต่อาจจะเลือกกินของที่มีประโยชน์สักหน่อยและหลีกเลี่ยงเมนูที่ทำให้อ้วน ไขมันเยอะ
2. ถือคติกินเพื่ออยู่ไม่ใช่อยู่เพื่อกิน
อะไรคือเหตุผลที่ทำให้คุณต้องหาอะไรกิน เพราะหิวหรือเพราะความอยาก หากคุณกินตามที่ร่างกายเรียกร้องต้องการตามธรรมชาติแล้วมันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมากนัก เพราะคุณจะกินแค่ให้ความหิวมันดับลงไปเท่านั้น แต่ถ้าเป็นการกินตามใจปากละก็คุณอาจจะเผลอกินเข้าไปจนลืมตัวด้วยความเอร็ดอร่อย รู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นคนอ้วนไปเสียแล้ว เพราะฉะนั้นหากไม่อยากมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว คุณก็ควรที่จะลดพฤติกรรมตามใจปากลง แล้วกินตามที่ร่างกายต้องการให้มากขึ้น
3. เลิกสะสมเสบียงไว้ในตู้เย็น
หลายคนอาจจะกลัวว่าจะไม่มีอะไรกินเวลาหิว หรือไปไหนมาไหนก็ต้องถือของกินเอามาแช่ตู้เย็นเก็บไว้ เพราะอะไรๆ ก็ดูน่ากินไปซะหมด ทีนี้พอคุณว่างๆ หรือเดินโฉบไปโฉบมาแถวหน้าตู้เย็น คุณก็จะอดไม่ได้ที่จะหยิบออกมากิน ยิ่งคุณเห็นว่ามีเสบียงอยู่เต็มตู้เย็นก็เกรงว่ามันจะเน่าจะเสียไปเสียก่อน เลยต้องกินซะให้หมด เป็นอย่างนี้ไม่ว่าจะชั่งน้ำหนักกี่ทีก็ไม่มีทางลด
4. เลิกนิสัยกินไปดูไป
ลำพังนิสัยชอบกินจุบจิบอย่างเดียวมันก็ทำให้คุณอ้วนขึ้นได้แล้ว และถ้ายิ่งคุณกินไปด้วยในระหว่างที่ดูทีวีหรือโทรศัพท์ มันก็จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับรายการโปรด และคุณก็จะเพลิดเพลินไปกับการหยิบขนมขบเคี้ยว ใส่ปากชิ้นแล้วชิ้นเล่าเช่นเดียวกัน สิ่งที่เหลือจากนั้นก็คือไขมันสะสมที่จะอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายคุณนั่นเอง
5. ใช้ภาชนะใส่อาหารสีเข้ม
คุณรู้หรือไม่ว่าแม้แต่สีสันของภาชนะใส่อาหารที่คุณเลือกใช้ ก็มีผลต่อการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของน้ำหนักตัวของคุณได้ เพราะจากผลการวิจัยในต่างประเทศได้บอกว่า การใช้ภาชนะสีสันสดใสใส่อาหารจะทำให้คุณรู้สึกอยากทานมากขึ้น แต่ถ้าคุณเปลี่ยนมาใช้ภาชนะสีเข้มๆ แทน มันก็จะช่วยให้คุณไม่รู้สึกอยากทานอะไรมากนัก ใครที่อยากลดปริมาณการทานอาหารลง โดยไม่ต้องใช้ความพยายามในการบังคับฝืนใจตัวเองก็ลองใช้เทคนิคนี้ดูได้เลย
6. ใช้จานใบเล็กลง
การเปลี่ยนขนาดของจานโดยหันมาใช้ใบเล็กลงจากที่เคยใช้ตามปกติ ก็เป็นเทคนิคทางจิตวิทยาอีกอย่างหนึ่ง เพราะหากเราคิดที่จะตักข้าวใส่จานเป็นจานที่ 2 เราอาจรู้สึกว่าเรากำลังจะกินมากไปแล้ว ทั้งๆ ที่เรากินในปริมาณน้อยลงกว่าเดิม แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้เราจะทานน้อยลงกว่าเดิมแต่ก็ควรได้สารอาหารอย่างครบถ้วนตามความต้องการของร่างกายนะ
7. เคี้ยวช้าๆ จะช่วยให้อิ่มเร็วขึ้น
การเคี้ยวอาหารช้าๆ ค่อยๆ เคี้ยวให้ละเอียด นอกจากจะช่วยให้คุณได้รับรสอาหารได้ดีขึ้นแล้ว ยังช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้อีกด้วย เนื่องจากการเคี้ยวช้าๆ จะทำให้สมองมีเวลาที่จะสั่งการให้ร่างกายรับรู้ได้ว่าอิ่มแล้ว ซึ่งตรงข้ามกับการกินอย่างรวดเร็ว เพราะกว่าที่สมองจะสั่งการได้ทัน คุณก็อาจจะกินเข้าไปหลายจานแล้วก่อนที่จะรู้สึกอิ่ม ดีไม่ดีหากยังรู้สึกหิวอยู่คุณก็อาจจะคิดไปว่าแค่ข้าวเหนียวมะม่วงอีกจานก็น่าจะพอรับไหว ผลที่ได้ก็คือน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งใน เคล็ดลับหุ่นดี ที่ควรค่าแก่การลองมาก
8. ห้ามอดอาหาร
การลดความอ้วนด้วยการอดอาหารเป็นความคิดที่ผิดอย่างแรง เพราะไม่เพียงแต่มันจะทำให้คุณขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายเท่านั้น แต่เมื่อคุณหิวจนตบะแตก คุณก็จะกินทุกอย่างที่ขวางหน้าเข้าไปจนเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คุณอ้วนขึ้นนั่นเอง หากคุณชอบอดอาหารบ่อย ๆ เพราะคิดว่าช่วยลดน้ำหนักได้ คุณอาจสนใจบทความนี้ เหตุผลที่ไม่ควรลดน้ำหนักด้วยการอดอาหาร
9. หลังมื้อเย็นไปแล้วไม่ควรทานอะไรอีก
ช่วงเวลานอนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการนอนหลับพักผ่อนของเรานั้น ก็คือช่วงเวลาประมาณ 4 ทุ่ม และร่างกายของเรานั้นก็จะใช้เวลาในการย่อยอาหารอย่างน้อยประมาณ 4 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นแล้วหากคุณทานอาหารเย็นเสียให้เสร็จเรียบร้อย ก่อน 6 โมงเย็นก็จะทำให้ร่างกายได้มีเวลาสำหรับการย่อย เพื่อที่ร่างกายและระบบการย่อยอาหารภายในร่างกายจะได้เข้าสู่ช่วงเวลาของการพักผ่อนได้อย่างเต็มที่
10. แบ่งอาหารออกเป็นมื้อเล็กๆ หลายๆ มื้อในหนึ่งวัน
มีการศึกษารองรับว่า การแบ่งมื้ออาหารออกเป็นมื้อเล็กๆ วันละ 5-6 มื้อแทนที่จะทานวันละ 3 มื้อตามปกติจะช่วยให้กระบวนการเผาผลาญอาหารในร่างกายทำงานอย่างสม่ำเสมอ และจะง่ายขึ้นสำหรับการรักษาน้ำหนักให้คงที่ และถ้าการทานวันละ 5-6 มื้อฟังดูเหมือนมากเกินไป คุณก็อาจจะเริ่มปรับเปลี่ยนแบบค่อยเป็นค่อยไป ค่อยๆ เพิ่มเข้าไปทีละมื้อก็ได้นะ ในไม่ช้ามันก็จะกลายเป็นนิสัยไปเอง
เคล็ดลับลดความอ้วน ที่กล่าวมาเป็นวิธีที่ทำตามกันได้ แต่อย่างไรก็ตามเราก็ควรที่จะได้รับสารอาหารอย่างพอเพียงตามความต้องการของร่างกาย เพราะความหมายของคำว่าการควบคุมอาหารเพื่อลดความอ้วนมิได้หมายความว่าเราจะต้องลดปริมาณอาหารทุกอย่างลง แต่หมายความว่าเราควรที่จะได้รับสารอาหารครบถ้วนอย่างพอเหมาะพอดีมากกว่า
เครื่องดื่มลดน้ำหนัก 8 ชนิด ที่ดื่มแล้วชื่นใจแถมยังได้ลดน้ำหนัก
นอกจาก เคล็ดลับลดความอ้วน แล้ว ยังมี เครื่องดื่มลดน้ำหนักมาฝากกันด้วย สำหรับสาวๆ ที่มีน้ำหนักตัวเยอะหรือมีรูปร่างอ้วนก็ชวนให้อึดอัดพออยู่แล้ว แถมยังต้องมาเจอกับอากาศร้อนๆ อีก คงเป็นเรื่องหงุดหงิดคูณสองเลยทีเดียว แล้วจะมีตัวช่วยที่ไหนดีไปกว่าเครื่องดื่มสักแก้วที่นอกจากจะช่วยให้ชื่นใจคลายร้อนได้แล้วยังช่วยให้น้ำหนักตัวลดน้อยลงได้อีกด้วย
ซึ่งวันนี้เราก็มีเครื่องดื่มมาแนะนำกัน สำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องดื่มที่จะช่วยดับกระหายคลายร้อนและยังช่วยสลายไขมันได้ในเวลาเดียวกัน จะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลย
1. น้ำแตงโมปั่น
น้ำแตงโมปั่นได้ชื่อว่าเป็นเครื่องดื่มลดน้ำหนักอันดับต้นๆเลยทีเดียว เนื่องจากแตงโมมีแคลอรี่ต่ำมาก และยังเต็มไปด้วยไฟเบอร์ วิตามินและแร่ธาตุอีกเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ในน้ำแตงโมยังมี อาร์จินีน (Arginine) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนแอซิดที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดไขมัน และทำให้มีมวลกล้ามเนื้อเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ประโยชน์มากมายแถมยังจิบแล้วชื่นใจคลายร้อยได้อย่างนี้ ใครที่อยากเผาผลาญไขมัน รีบจัดน้ำแตงโมปั่นด่วนเลย
2. ชาเขียวร้อน
การดื่มชาเขียวเพื่อให้ได้รับคุณค่าจากใบชาจริงๆ ควรเป็นการชงดื่มร้อนๆ และวิธีดื่มให้ถูกต้องนั้น ควรที่จะได้สัมผัสกับความหอมของกลิ่นชาก่อนที่จะดื่ม ชาเขียวเป็นเครื่องดื่มที่ไม่เพียงแต่จะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งและโรคหัวใจได้เท่านั้น ในชาเขียวยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อ คาเทชิน ที่มีส่วนช่วยในการลดไขมันหน้าท้อง และจะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้เพิ่มขึ้น หากได้จิบชาเขียวสักหน่อยก่อนที่จะไปออกกำลังกายหรือหลังมื้ออาหาร
3. กาแฟดำ
คุณเชื่อหรือไม่ล่ะว่าหากได้ดื่มกาแฟสักแก้วก่อนที่จะไปออกกำลังกาย จะช่วยให้คุณสามารถใช้เวลาไปกับการออกกำลังได้นานขึ้นและอึดยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นผลให้คุณได้เผาผลาญแคลอรี่มากขึ้นนั่นเอง แต่กาแฟที่ดื่มต้องเป็นกาแฟดำเท่านั้นนะ ไม่ใช่กาแฟใส่นมหรือใส่น้ำตาล ไม่เช่นนั้นแล้วก็จะกลายเป็นเรื่องไร้ประโยชน์หากคุณออกกำลังได้นานขึ้นแต่แคลอรี่ก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย แต่หากคุณยังตัดความหวานออกไปไม่ได้ก็พอจะใส่น้ำตาลทรายแดงหรือสารให้ความหวานแทนได้ แต่เอาแค่นิดๆ หน่อยๆ พอให้ได้รสก็พอนะ
4. น้ำมะนาวกับน้ำอุ่น
น้ำมะนาวเป็นเครื่องดื่มที่ไม่เพียงแต่จะช่วยล้างสารพิษในร่างกายของเราได้เท่านั้น หากดื่มทุกวันก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของระบบย่อยอาหารและช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายได้เป็นอย่างดี โดยหลังจากตื่นนอนตอนเช้าก่อนที่จะทานอะไรเข้าไป ให้บีบน้ำมะนาวลงในน้ำอุ่นเล็กน้อยหรือหนึ่งลูกก็ได้ เอาเปลือกมะนาวแช่ลงไปด้วย ดื่มเป็นประจำทุกวันการขับถ่ายก็จะคล่องขึ้น ทำให้น้ำหนักลดลงได้ง่ายขึ้นด้วยยังไงล่ะ
5. เม็ดแมงลักผสมเครื่องดื่ม
เนื่องจากเม็ดแมงลักสามารถขยายตัวได้จึงช่วยให้เราอิ่มได้ไวขึ้น หากไม่อยากดื่มเม็ดแมงลักผสมน้ำแบบเพียวๆ ก็สามารถนำไปผสมรวมกับเครื่องดื่มได้หลากหลายชนิด จะผสมกับน้ำแตงโมก็จะได้รสชาติเย็นสดชื่น ผสมน้ำมะนาวก็ได้ น้ำมะพร้าวก็ดี ใส่ในน้ำเต้าหู้ น้ำเต้าฮวยก็ช่วยให้อิ่มท้องเร็วขึ้น ใครดื่มเครื่องดื่มผสมเม็ดแมงลักบ่อยๆ จะช่วยให้ลดความอ้วนได้ไวขึ้น
6. ดาร์กช็อกโกแลตเชค
หลายคนอาจสงสัยว่าดาร์กช็อกโกแลตเนี่ยนะจะช่วยให้ลดความอ้วนได้ คำตอบคือถูกต้องแล้วคร๊าบบ เพราะการดื่มดาร์คช็อกโกแลตจะช่วยให้ความอยากอาหารลดน้อยลง ทำให้ลดพฤติกรรมที่ชอบกินนู่นกินนี่ในระหว่างมื้ออาหารลงไปได้ แต่เนื่องจากดาร์กช็อกโกแลตมีแคลอรี่เยอะแทนที่จะดื่มเป็นของว่างจึงเหมาะที่จะดื่มแทนมื้ออาหารมากกว่า ใครมีชีวิตที่ต้องเร่งรีบทานมื้อเช้าไม่ทันจะดื่มดาร์กช็อกโกแลตแทนก็ได้นะ โดยเฉพาะกับผู้ที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนัก ดาร์กช็อกโกแลตช่วยได้ดีทีเดียว
7. ไวน์แดง
หากต้องเข้าสังคมอยู่เป็นประจำ ไวน์แดงเป็นตัวเลือกที่ดีเมื่อต้องอยู่ในช่วงลดน้ำหนัก เพราะไวน์แดงมีสารแอนตี้ออกซิแดนต์สูงจึงช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายได้ดี และยังช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจได้อีกด้วย เมื่อเทียบกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทอื่นๆ แล้ว ไวน์แดงจึงส่งผลดีต่อสุขภาพมากกว่า แต่ยังไงก็ควรดื่มในระดับที่เหมาะสมจึงจะเป็นประโยชน์มากกว่าเป็นโทษตามมานะ
8. น้ำเปล่า
การดื่มน้ำเปล่า เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้น้ำหนักของคุณลดลงได้ หากได้ดื่มน้ำเปล่าสัก 1-2 แก้ว ประมาณครึ่งชั่วโมงก่อนมื้ออาหารก็จะช่วยให้อิ่มเร็วขึ้น นอกจากนี้แล้วการดื่มน้ำยังไปช่วยกระตุ้นให้เกิดการเผาผลาญไขมันและน้ำตาลในร่างกายได้ และเมื่อคุณหันมาดื่มน้ำเปล่ามากขึ้น ก็จะเป็นการลดโอกาสที่จะดื่มเครื่องดื่มให้ความหวานต่างๆ ให้ลดน้อยลง จึงทำให้ควบคุมน้ำหนักได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
นี่ก็เป็น เคล็ดลับลดความอ้วน อีกทางหนึ่ง แต่เครื่องดื่มบางชนิดก็ควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสม แต่บางชนิดอย่างน้ำเปล่าสามารถดื่มได้ตลอดเวลาและควรดื่มให้ได้เยอะๆ อย่างน้อย 6-8 แก้วต่อวันจึงจะช่วยให้น้ำหนักลดลงอย่างได้ผล อย่างไรก็ตามการลดความอ้วนให้ได้ผลอย่างจริงจังก็จำเป็นต้องอาศัยการควบคุมอาหาร เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละวัน และต้องอาศัยการออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยเป็นหลัก
กล้วยลดความอ้วน สูตรลับและเทคนิคง่ายๆ ที่สาวญี่ปุ่นใช้กัน
กล้วยลดความอ้วน สูตรลับและเทคนิคง่ายๆ เคล็ดลับลดความอ้วน ที่สาวญี่ปุ่นใช้กัน กล้วย เป็นผลไม้ที่หาได้ง่ายมากในประเทศไทย และที่สำคัญคือมีราคาไม่แพง และมีให้กินตลอดทั้งปีอีกด้วย และข่าวดีสำหรับสาวๆ ที่อยากจะมีหุ่นดี เราจะมาบอกคุณว่า
ทำอย่างไรให้น้ำหนักลดลง โดยการกินกล้วย และจะกินอย่างไร และทำไมกล้วยถึงช่วยลดความอ้วนได้ เรามีคำตอบมาให้คุณแล้ว และเชื่อได้เลยว่าสาวๆ ก็พร้อมที่จะลดน้ำหนักไปกับเราแล้วเหมือนกัน เพราะฉะนั้นมาดูกันเลยดีกว่า ว่าการลดน้ำหนักด้วยกล้วยนั้นมันจะเวิร์กหรือเปล่า
กล้วย ผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและสารอาหาร ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า กล้วยเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหารอย่างมากมายทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น วิตามิน B1 B2 โพแทสเซียม ใยอาหาร โปรตีน คาร์โบไฮเดรต น้ำตาล สารโพลีฟินิล
ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนช่วยในการต้านการเกิดมะเร็ง สารเซโรโทนินซึ่งเป็นสารที่สามารถช่วยลดความอยากอาหารได้ และนอกจากนี้แล้วในกล้วยยังมีเอนไซม์บางชนิดที่สามารถช่วยในการกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหารให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย
ที่น่าสนใจไปกว่านั้น คือ ในกล้วยยังมีน้ำตาลมากถึง 3 ชนิด ได้แก่ ซูโครส ฟรุคโทส และ กลูโคส ซึ่งน้ำตาลเหล่านี้ร่างกายสามรถดูดซึมและนำมาใช้งานได้ในทันทีเลย และด้วยความที่กล้วยเป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่ให้พลังงานค่อนข้างสูง คือ หากกินกล้วย 2 ผล จะมีพลังงานให้ใช้งานได้นานถึง 90 นาทีเลยทีเดียว จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมนักกีฬาอย่างนักเทนนิสหรือนักวิ่งมาราธอน มักจะต้องมีกล้วยติดตัวเอาไว้กินในระหว่างการแข่งขัน
กินกล้วยเพื่อลดความอ้วนทำอย่างไร?
เมื่อรู้ประโยชน์ของกล้วยแล้ว เชื่อว่าหลายคนอาจจะสงสัยว่า หากกล้วยเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานสูง และมีปริมาณของน้ำตาลค่อนข้างมาก แล้วจะนำมาใช้ในการลดน้ำหนักได้อย่างไร ในหัวข้อนี้เราจะมาบอกกันว่า หากต้องการกินกล้วยเพื่อลดความอ้วนจะทำได้อย่างไรมาดูกัน
- กินกล้วยเป็นมื้อเช้า แทนที่จะกินอาหารเช้าตามปกติ เราก็เปลี่ยนมาเป็นการกินกล้วยกี่ลูกก็ได้ เอาให้รู้สึกว่าอิ่ม และดื่มน้ำเปล่าตามลงไป แนะนำว่าให้เลือกเป็นน้ำอุณหภูมิปกติจะดีที่สุด และหากรู้สึกว่าไม่อิ่มให้รออย่างน้อย 15 นาที แล้วกินกล้วยเข้าไปเพิ่ม หรือหากไม่ไหวจริงๆ อนุโลมให้กินอาหารเช้าตามปกติได้ แต่แน่นอนว่าก่อนหน้านี้ได้กินกล้วยเข้าไปแล้ว ย่อมกินอาหารเช้าได้น้อยลงอย่างแน่นอน
- มื้อเที่ยง เน้นกับไม่เน้นข้าว มื้อเที่ยงให้คุณเลือกกินอาหารได้ตามใจชอบ แต่อาจจะลดปริมาณของข้าวลงไป หรือกินอาหารจำพวกโปรตีน เช่น ไข่หรือเนื้ออกไก่ก็ได้เช่นเดียวกัน สำหรับมื้อนี้อย่าลืมว่าคุณกำลังลดน้ำหนักอยู่ เพราะฉะนั้นหลีกเลี่ยงของมัน ของทอดด้วย
- ระหว่างวัน หากรู้สึกว่าหิวอาจจะกินผลไม้อย่าง กล้วย แอปเปิ้ล ชมพู่ ฝรั่ง ซึ่งผลไม้เหล่านี้มีน้ำตาลไม่มากนัก และสามารถกินได้ตลอดทั้งวัน แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าร่างกายขนาดขนมไม่ได้ ก็ขอแนะนำว่าให้กินเป็นดาร์กช็อกโกแลต ชิ้นเล็กๆ 1 ชิ้นพอให้ร่างกายได้รู้รสก็เพียงพอแล้ว และจำไว้ว่าห้ามกินอะไรอีกหลัง 15.00 น. หากเกินเวลานี้ ให้รอรวบยอดเป็นมื้อเย็นไปเลยจะดีกว่า
- มื้อเย็น เวลาที่เหมาะสมสำหรับการกินมื้อเย็น คือ ประมาณ 17.00-20.00 น. และถ้าหากคุณต้องการลดความอ้วนอย่างรวดเร็ว มื้อเย็นความเริ่มไม่เกิน 18.00 น. และเวลาหลังจากนั้นไม่ควรกินอะไรแล้ว ให้กินน้ำเปล่าอย่างเดียวก็เพียงพอ
สูตรการลดความอ้วนด้วยกล้วยไม่เหมาะกับใคร?
แน่นอนว่าสูตรลดความอ้วนบางสูตรไม่ได้เหมาะกับทุกคนเสมอไป สำหรับสูตรการลดความอ้วนด้วยกล้วยก็เช่นเดียวกัน ไม่เหมาะสมกับเด็กในวัยเจริญเจริญเติบโต คนป่วย และคนที่แพ้สารอาหารบางอย่างในกล้วย เป็นต้น อีกทั้งคนที่มีโรคประจำตัวแนะนำว่าให้ปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะทำการลดน้ำหนักเสมอ เพื่อความปลอดภัย
การลดน้ำหนักด้วยกล้วย อาจจะไม่ใช่วิธีการที่ดีที่สุด สำหรับหลายๆ คน แต่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีการที่มีคนเคยทำแล้วเห็นผล ที่สำคัญคือสูตรนี้คุณไม่ต้องอดอาหารในมื้อใดมื้อหนึ่ง ช่วยให้ร่างกายไม่โหย และลดโอกาสในการที่จะเกิดโยโย่เอฟเฟกต์ หลังจากการลดน้ำหนักได้
อีกทั้งกล้วย ยังเป็นผลไม้ที่หาง่ายและราคาถูกอีกด้วย แต่ถ้าหากคุณได้ลองทำแล้วเห็นว่า ไม่ได้ผล หรือไม่ถูกกับตัวเองก็คงต้องหาวิธีกันต่อไป เพราะสูตรในการลดน้ำหนัก ยังมีอีกหลายสูตรทีเดียวที่รอให้คุณมาลอง
นอกจากการจัดการเมนูอาหารให้เหมาะสม ในระหว่างเวลาของการลดน้ำหนักแล้ว เรื่องของกิจกรรมต่างๆ ก็ควรจัดให้เหมาะสมด้วยเช่นเดียวกัน เช่น การนอนหลับ ควรนอนให้เร็วขึ้น เพราะในแต่ละมื้อของคุณค่อนข้างห่างกันพอสมควร และหากปล่อยให้ตัวเองอยู่ดึกอาจจะทำให้รู้สึกหิวจนต้องลุกขึ้นมาหาอะไรกินในตอนกลางคืนได้ ดังนั้น ควรนอนก่อนเที่ยงคืนเป็นอย่างช้า เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ
เมื่อมีการควบคุมอาหาร การออกกำลังกายก็ต้องทำให้เหมาะสม ควรเลือกเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ร่างกายได้มีการเผาผลาญพลังงานอย่างเหมาะสม หรือหากคุณกลัวที่จะเหนื่อยเกินไป อาจจะเล่นอะไรเบาๆ อย่างโยคะหรือพิลาทิส ก็ได้เช่นเดียวกัน
อ้างอิง
Weight loss: 6 strategies for success : https://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/weight-loss/in-depth/weight-loss/art-20047752
