ทาครีมแล้วไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ทาครีมแล้วยังไม่เห็นผลอย่างเต็มที่ ทั้ง ๆ ที่คุณมั่นใจแล้วว่าเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความเหมาะสมกับผิวของตนเองแล้ว ปัญหาอาจจะอยู่ที่ขั้นตอนทางครีมก็เป็นได้ ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำ ขั้นตอนทาครีม อย่างถูกต้อง เพื่อที่จะทำให้คุณนั้นเห็นผลลัพธ์ได้อย่างเต็มที่ เห็นผลลัพธ์อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้นไม่เสียเวลา และสามารถซึมซับประโยชน์จากสกินแคร์ที่คุณใช้ได้อย่างเต็มกำลังในทุกครั้งที่มีการใช้งาน ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำให้คุณได้ทำความรู้จักกันแบบสเต็ปบายสเต็ปกันเลยทีเดียว

การเลือกครีมที่เหมาะกับผิวหน้า

ขั้นตอนทาครีม

การเลือกครีมที่เหมาะกับผิวหน้าเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากอยากอยากหน้าใสไร้สิว การเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความเหมาะสมจะทำให้ผิวของคุณแข็งแรงขึ้น ชุ่มชื้น และดูดีมากที่สุด ดังนั้นเราได้นำเคล็ดลับที่จะช่วยทำให้คุณเลือกครีมที่เหมาะกับใบหน้าของคุณมาฝากกันแล้ว

  • ทำความรู้จักกับกับประเภทผิวของคุณ: มีประเภทสกินแคร์ที่แตกต่างกัน เหมาะสำหรับการนำไปใช้งานในสภาพผิวที่แตกต่างกัน ก่อนที่คุณจะเลือกใช้ ขอให้พิจารณาว่าคุณมีผิวมัน, ผิวแห้ง ผิวธรรมดาหรือผิวผสม วิธีนี้จะทำให้คุณเลือกสกินแคร์ที่มีสูตรเฉพาะสำหรับสภาพผิวของคุณ
  • เลือกสกินแคร์ที่ส่วนผสมที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณ: ให้คุณหาสกินแคร์ที่มีส่วนผสมที่เป็นประโยชน์ต่อสภาพผิวของคุณ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณมีผิวแห้ง แนะนำให้เลือกครีมที่มีกรดไฮยาลูโรนิกหรือกลีเซอรีน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ แต่ถ้าคุณมีผิวมัน ให้มองหาสกินแคร์ที่เหมาะกับผิวมันที่มีกรดซาลิไซลิกหรือเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ ซึ่งสามารถช่วยลดความมันและป้องกันการเกิดสิวได้
  • เลือกสกินแคร์ที่มีค่า SPF: การที่ผิวถูกทำลายจากแสงแดด จัดเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเกิดริ้วรอยก่อนวัยและการทำร้ายผิว แนะนำให้คุณเลือกครีมที่มี SPF เพื่อปกป้องผิวของคุณจากรังสี UV ที่เป็นอันตราย
  • หลีกเลี่ยงการใช้ครีมที่มีส่วนผสมของสารเคมีรุนแรง: สารเคมีที่รุนแรง จะทำให้ผิวของคุณระคายเคืองและก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี หลีกเลี่ยงครีมที่มีส่วนผสมของพาราเบน ซัลเฟต และน้ำหอมเทียม
  • เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เหมาะกับอายุของคุณ: เมื่อคนเรามีอายุมากขึ้น ความเสื่อมของผิวก็จะเปลี่ยนไป และต้องการการดูแลที่แตกต่างกัน ดังนั้นแนะนำให้คุณเลือกครีมที่มีสูตรเฉพาะสำหรับช่วงวัยของคุณ เพื่อช่วยในการบำรุงผิวของคุณให้ดีที่สุด
  • อ่านรีวิว: การอ่านรีวิวจะช่วยเพิ่มการตัดสินใจให้กับคุณในมากขึ้น ขอแนะนำว่าขอให้คุณพยายามอ่านหลาย ๆ ความคิดเห็น ทั้งความเห็นที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้มาเปรียบเทียบชั่งน้ำหนักกัน ก่อนนำไปตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์สกินแคร์มาใช้งาน

ผิวของทุกคนมีความแตกต่างกัน และการทาครีมที่ได้ผลสำหรับคนหนึ่งอาจไม่ได้ผลสำหรับอีกคนหนึ่ง ดังนั้นคุณอาจจะต้องพยายามเสาะหาสกินแคร์ที่มีความเหมาะสมกับประเภทผิวของคุณสักหน่อย และก่อนที่จะนำมาใช้ในการทาหน้าอย่างเต็มรูปแบบ แนะนำให้คุณทำการทดสอบนำมาป้ายบริเวณจุดใดจุดหนึ่งของใบหน้าเสียก่อน เพื่อทดสอบการแพ้

ขั้นตอนการทาครีม ให้ถูกวิธีและตรงจุด

ขั้นตอนทาครีม

มาเจาะลึกในเรื่องของ ขั้นตอนทาครีม หรือการใช้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ประเภทต่าง ๆ อย่างถูกต้องตามลำดับที่เหมาะสมกันดีกว่า ซึ่งถ้าคุณเป็นคนที่ทาผลิตภัณฑ์สกินแคร์หลายตัวอยู่แล้ว แต่อาจจะเรียงลำดับการใช้งานไม่ถูก วันนี้เราก็นำมาแนะนำให้คุณได้ทำความเข้าใจและทำความรู้จักกันอย่างละเอียดที่สุด หลังจากที่อ่านจบแล้วนำไปปรับใช้ เราเชื่อว่าคุณจะเห็นผลและเห็นประสิทธิภาพจากการเปลี่ยนแปลงได้ดีขึ้น

  • ทำความสะอาด: ขั้นตอนแรกของการดูแลผิวคือ การทำความสะอาดใบหน้าเพื่อขจัดสิ่งสกปรก น้ำมัน และเครื่องสำอางออกให้หมดเกลี้ยง แนะนำให้คุณใช้คลีนเซอร์สูตรอ่อนโยนที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณ และนำมานวดวนเป็นวงกลม ล้างหน้าด้วยน้ำเย็นและซับให้แห้งด้วยผ้าสะอาด ใช้การซับเท่านั้นไม่ใช้การถูหน้า
  • โทนเนอร์: หลังจากล้างหน้าให้คุณใช้โทนเนอร์เพื่อปรับสมดุลค่า pH ของผิว และขจัดสิ่งสกปรกที่หลงเหลืออยู่ หยดโทนเนอร์ลงบนสำลี แล้วค่อย ๆ เช็ดให้ทั่วใบหน้าและลำคอ
  • เลือกผลิตภัณฑ์รักษาเฉพาะจุด: ขั้นตอนนี้เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวโดดเด่นใดด้านหนึ่งโดยเฉพาะ และต้องการกำจัดหรือฟื้นฟูบำรุงให้เห็นผลดีขึ้นในระยะเวลาที่ไม่นาน เช่น สิว, จุดด่างดำ, ฝ้า หรือริ้วรอย แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์รักษาเฉพาะจุด เช่น เซรั่มหรือการรักษาเฉพาะจุด แนะนำให้ใช้ในปริมาณเล็กน้อยและนวดเบา ๆ ให้ซึมเข้าสู่ผิวในจุดที่มีปัญหา
  • เติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิว: เติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิวด้วยการทามอยเจอร์ไรเซอร์เพื่อล็อกความชุ่มชื้น และทำให้ผิวของคุณอ่อนนุ่ม แนะนำให้คุณเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณ และนวดเป็นวงกลม สำหรับผู้ที่มีผิวมัน เราขอแนะนำให้คุณเลือกมอเจอไรเซอร์ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน หรือไม่มีความมัน
  • ปกป้องผิวจากแสงแดด: ขั้นตอนทาครีมสุดท้ายคือการปกป้องผิวของคุณจากแสงแดด ด้วยการทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 เป็นอย่างน้อย ทาให้ทั่วใบหน้า ลำคอ และบริเวณที่สัมผัสอื่น ๆ และทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง

ปรับปรุงสุขภาพผิวด้วยการดื่มน้ำและรับประทานอาหารที่ดี

ขั้นตอนทาครีม

นอกเหนือไปจากการบำรุงผิวภายนอกแล้ว การบำรุงผิวบำรุงสุขภาพให้เปล่งปลั่งออกมาจากภายในก็เป็นสิ่งที่มีความสำคัญเช่นเดียวกัน โดยมีอาหารบำรุงผิวที่เราอยากจะแนะนำดังนี้

1.กินผักและผลไม้อย่างน้อย 5 ส่วนทุกวัน

การกินผักและผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ จะมีประสิทธิภาพช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ ที่ทำให้เกิดความเสี่ยงของผิว และอาจถูกกระตุ้นได้จากการสูบบุหรี่, การสูดดมมลพิษ และการเผาของแสงแดด เบต้าแคโรทีนมักพบในผักและผลไม้สีส้ม เช่น แครอท มันเทศ และฟักทอง ส่วนลูทีนพบในคะน้า มะละกอ และผักโขม ล้วนมีความสำคัญต่อการพัฒนาเซลล์ผิว

2.กินวิตามิน C

การเติมวิตามิน C เข้าร่างกายจะช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ผิวกระจ่างใส และช่วยรักษาฝ้า ซึ่งมักพบใน บลูเบอร์รี่ บล็อกโคลี่ ฝรั่ง กีวี ส้ม มะละกอ สตรอเบอร์รี่ และมันหวาน นอกจากนี้วิตามินC ยังเป็นกุญแจสำคัญในการผลิตคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนที่สร้างโครงสร้างที่ทำให้ผิวของเราอวบอิ่มและพยุงตัวเต่งตึง และทำให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรงซึ่งส่งเลือดไปหล่อเลี้ยงผิวได้ดี

3.กินวิตามินE ให้เพียงพอ

วิตามินE มีบทบาทสำคัญในการปกป้องผิวจากการทำลายของอนุมูลอิสระ (เซลล์) ช่วยชะลอริ้วรอยแห่งวัย อาหารที่มีวิตามิน E สูง ได้แก่ อัลมอนด์, อะโวคาโด, น้ำมันดอกทานตะวันและเมล็ดฟักทอง

4.กินสังกะสีให้มาก

แร่ธาตุสังกะสีจะทำให้ผิวของคุณมีความอ่อนนุ่ม และยังมีส่วนร่วมในกระบวนการบำบัดและช่วยซ่อมแซมผิวที่ถูกทำลาย อาหารที่อุดมด้วยสังกะสี ได้แก่ ปลา, เนื้อแดงไม่ติดมัน, โฮลเกรน, สัตว์ปีก, ถั่ว, เมล็ดพืช และหอย

และอีกหนึ่งวิธีบำรุงผิวขั้นตอนสุดท้ายให้มีความชุ่มชื้นจากภายในสู่ภายนอกก็คือการดื่มน้ำเปล่า การดื่มน้ำเปล่าจะช่วยทำให้ผิวคุณสดชื่น ริมฝีปากไม่แห้งแตก และยังดีต่อระบบการทำงานและอวัยวะการทำงานภายในของคุณอีกด้วย และอีกหนึ่งสิ่งที่มีความสำคัญที่สุดก็คือการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 7 – 8 ชั่วโมงต่อคืน การเลือกครีมอาบน้ำช่วยให้กลิ่นหอมและบำรุงผิวร่วมด้วยก่อนนอนก็จะทำให้ผิวผ่อนคลาย หลับได้ยาวนานขึ้น ซึ่งก็จะทำให้คุณนั้นมีสุขภาพผิวและสุขภาพกายที่ดีขึ้น จนเห็นผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลง

อ้างอิง