อยากหุ่นดี ไม่ยาก แค่ทำตาม 10 วิธีนี้สิรับรองหุ่นดี จนลืมว่าเคยอ้วน
อยากหุ่นดี เป็นเรื่องที่หลายคนบอกว่าไม่ง่ายเลย เพราะต้องเป็นคนที่โชคดีมากหรือไม่ก็ต้องเป็นคนที่มีวินัยในตัวเองค่อนข้างสูง เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะตบะแตกระหว่างทางได้ แต่การดูแลหุ่นให้ดีอย่างที่ฝันนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ยากเสมอไป
เพราะเรามีสูตรลัดที่จะทำให้คุณมีรูปร่างดีแบบง่ายๆ แค่ทำตาม 10 วิธีนี้รับรองหุ่นดี จนลืมว่าเคยอ้วน มาฝากกันยังไงล่ะ ส่วนจะมีวิธีอะไรบ้างไปดูกันดีกว่า
1. ดื่มน้ำ
ดื่มน้ำแก้วใหญ่ตอนตื่นนอน เราจะหุ่นดีไม่ได้เลยถ้าระบบขับถ่ายยังทำงานไม่ดี การดื่มน้ำอุ่ ผสมน้ำมะนาวครึ่งลูกตอนตื่นนอนจะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่ายให้ทำงานได้อย่างเป็นปกติ นอกจากจะช่วยให้หุ่นดีแล้วยังช่วยให้ผิวพรรณของเราสดใสด้วย และที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือ คนที่ขับถ่ายทุกเช้าจะไม่ค่อยมีกลิ่นตัว เพราะร่างกายได้ขับของเสียออกไปแล้วนั่นเอง
2. ดื่มชา
ถ้าดื่มชาหรือกาแฟให้เลือกใส่นมสดไขมันต่ำแทนที่จะเป็นครีมเทียมและงดใส่น้ำตาล อันที่จริงตามหลักแล้วควรงดใส่ไปเลยสำหรับ เครื่องดื่มพวกนี้เน้นเป็นกาแฟดำแทน แต่ถ้าคุณใจไม่แข็งพอ เราแนะนำว่าให้ลดปริมาณลงด้วย โดยดื่มได้แค่สัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือนานๆ ครั้งได้ยิ่งดี
3. กินผลไม้
กินผักผลไม้เป็นประจำ แต่ผลไม้ที่ว่าต้องเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลไม่สูงด้วยนะ เพราะว่าการกินผลไม้ในระหว่างวันจะช่วยยืดเวลาของอาหารแต่ละมื้อออกไปได้ และช่วยให้เราไม่รู้สึกว่าน้ำตาลในเลือดน้อยจนพาลจะเป็นลม หรือหงุดหงิดใส่คนรอบข้างด้วย หากคุณต้องการลดน้ำหนักให้ได้ผล การรับประทานผลไม้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด
4. ไม่ทานเค็ม
งดอาหารรสเค็มหรืออาหารที่มีโซเดียมสูง ไม่เฉพาะอาหารเท่านั้น ยังรวมไปถึงพวกขนมขบเคี้ยวด้วย เพราะว่าอาหารเหล่านี้จะทำให้เกิดอาการบวมน้ำ และทำให้ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ ซึ่งเจ้าต่อมไทรอยด์นั้นเป็นต่อมที่ผลิตฮอร์โมนที่กระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญ หากทำงานผิดปกติร่างกายของเราอาจจะสูญเสียระบบเผาผลาญไปเลยก็ได้
5. ชาเขียวร้อน
ดื่มชาเขียวร้อนหลังอาหาร เราไม่ได้จะชวนคุณให้มาเป็นชาวญี่ปุ่นแต่อย่างใด เพียงแต่ว่าการดื่มชาเขียวหลังมื้ออาหารจะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหารให้ทำงานได้ดีขึ้น และที่น่าสนใจก็คือชาเขียวยังจะไปช่วยกระตุ้นให้ระบบเผาผลาญพลังงานในร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติด้วย
6. กินพอดีๆ
กินให้รู้ว่าได้กิน คนส่วนใหญ่มักจะกินจนร่างกายรู้สึกว่าอิ่มหรือจุก แต่คนที่มีรูปร่างดีส่วนใหญ่ ถ้าเป็นสายกินมักจะกินให้ร่างกายรู้สึกว่าได้ลิ้มรส แต่ไม่อัดอาหารเข้าไปจนร่างกายรู้สึกว่าอิ่มเกินไป ซึ่งวิธีการนี้นอกจากจะทำให้เราได้กินอาหารที่ชอบแล้ว ยังทำให้ร่างกายไม่มีไขมันสะสมในปริมาณที่มากเกินไปอีกด้วย แต่ที่สำคัญก็ไม่ควรอาหารด้วยเช่นกัน หากคุณอยากรู้ว่าทำไม คุณอาจสนใจบทความนี้ เหตุผลที่ไม่ควรอดอาหาร
7. น้ำอัดลม สิ่งต้องห้าม
งดน้ำอัดลม เชื่อหรือไม่ว่าในน้ำอัดลมนั้นมีปริมาณของน้ำตาลมากกว่าช็อกโกแลตเสียอีก การงดดื่มน้ำอัดลมเป็นอีกหนทางหนึ่งในการที่จะช่วยให้ร่างกายของเราไม่ต้องเสี่ยงรับน้ำตาลในปริมาณที่มากเกินไป จนก่อให้เกิดโรคอ้วนหรือภาวะน้ำหนักเกิน
8. เลือกทานอาหาร
อย่ากินอาหารเพื่อบำบัดอารมณ์ อย่างเวลาที่คุณเศร้า คุณอาจจะอยากกินอะไรหวานๆ เพราะน้ำตาลจะไปกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นโดรฟินหรือสารแห่งความสุขออกมา หากมีเรื่องเศร้าหรือเครียด ขอแนะนำว่าให้คุณลองไปวิ่งรับลมเย็นๆ ที่สวนสาธารณะจะดีกว่า รวมถึงลดอาหารประเภทปิ้งย่างด้วยเพราะเต็มไปด้วยโซเดียม
9. โยคะช่วยได้
ลองเล่นโยคะหรือกิจกรรมที่ยืดหยุ่นร่างกาย นอกจากจะเป็นการออกกำลังกายแล้ว ยังเป็นการจัดระเบียบร่างกาย และปรับบุคลิกของเราให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดทีเดียว หลายคนอาจจะไม่ใช่คนที่รูปร่างไม่ดี แต่การยืนหรือการเดินที่ผิดวิธีของคุณ ทำให้คุณดูกลายเป็นคนที่ดูตัวใหญ่ ไม่สง่างาม การเล่นโยคะช่วยได้ในเรื่องนี้ และช่วยให้คุณได้รูปร่างที่สวยงามจริงๆ อีกด้วย
10. นอนพักผ่อน
พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนน้อย การนอนดึก เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ระบบเผาผลาญภายในร่างกายทำงานไม่ปกติ จนทำให้กินอาหารเข้าไปเล็กน้อยน้ำหนักก็ขึ้นจนน่าตกใจ การพักผ่อนให้เพียงพอช่วยในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี และการที่เรานอนเร็วขึ้นจะช่วยให้ในช่วงกลางคืนเราไม่หิว จนต้องออกไปหาอะไรกินอีกด้วย
จะเห็นได้ว่าการมีหุ่นดีนั้น ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด และไม่จำเป็นต้องอดอาหารอีกด้วย เพียงแค่เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ และหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ แค่นี้รูปร่างสวยๆ ก็ไม่ยากเกินไปแล้ว และถ้าหากว่ารู้สึกหมดกำลังใจ เราขอแนะนำว่าให้ลองไปหาแรงบันดาลใจ กระทู้ของคนที่ประสบความสำเร็จในการดูแลตัวเอง หรือคนที่เคยอ้วนมากๆ แต่ประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนัก มาอ่านจะช่วยทำให้มีกำลังใจในการลดน้ำหนักและได้วิธีการที่เหมาะสมกับตัวเองได้เร็วขึ้นอีกด้วย
อยากหุ่นดี ดู 10 เทคนิค ลดคอเลสเตอรอลแบบได้ผล แถมทำไม่ยากอย่างที่คิด
คอเลสเตอรอลคำนี้เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยได้ยินมาก่อน และเป็นคำที่คุ้นหูทุกคนมาเป็นอย่างดี แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่ามันคืออะไร และส่งผลอย่างไรกับร่างกาย สำหรับในหัวข้อนี้เราจะมาบอกคุณถึงการจัดการกับเจ้าคอเลสเตอรอลตัวร้ายว่าต้องทำอย่างไรจึงจะได้ผล
คอเลสเตอรอล คืออะไร?
มันคือไขมันชนิดหนึ่งที่โดยปกติแล้วจะทำหน้าที่ในการช่วยลำเลียงโปรตีนไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย แต่อย่างไรก็ตาม นอกจากจะจับตัวกับโปรตีนแล้ว คอเลสเตอรอลยังสามารถที่จะจับตัวกับไขมันได้อีกด้วย ซึ่งจุดนี้เองที่เป็นปัญหา เพราะเมื่อคอเลสเตอรอลไปจับกับไขมันก็มักจะทำให้การเคลื่อนตัวทำได้ลำบาก และสุดท้ายก็จะไปแปะอยู่ตามเส้นเลือด และเซลล์อื่นๆ ของร่างกาย จนทำให้เป็นอันตรายได้ เพราะมักจะเป็นต้นเหตุของโรคต่างๆ อีกมากมายทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ หลอดเลือดอุดตัน เป็นต้น
วิธีลดคอเลสเตอรอลให้ได้ผลและปลอดภัย มีดังนี้
- วิธีลดคอเลสเตอรอล จะต้องควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสม เพราะน้ำหนักที่มากเกินไป ย่อมหมายความว่าในร่างกายของคุณมีไขมันในปริมาณที่มากเกินไปด้วย ซึ่งนั่นก็หมายความว่าคอเลสเตอรอลในร่างกายของคุณก็จะมากเกินไปด้วย แต่เราไม่ได้บอกว่าคนผอมจะไม่มีโอกาสที่จะเกิดภาวะคอเลสเตอรอลเกิน เพียงแต่ว่าอาจจะมีโอกาสน้อยกว่าคนที่น้ำหนักเกินนั่นเอง
- ออกกำลังกายเป็นประจำ เพราะการออกกำลังกาย นอกจากจะช่วยให้การควบคุมน้ำหนักทำได้ง่ายขึ้นแล้ว ยังช่วยให้คุณควบคุมปริมาณของคอเลสเตอรอลในร่างกายได้เป็นอย่างดี เพราะเมื่อร่างกายของเราได้ออกแรง จะทำให้เกิดการเผาผลาญไขมันออกไป ช่วยลดโอกาสในการที่ไขมันและคอเลสเตอรอลจะมาเกาะตามเซลล์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
- งดอาหารกึ่งสำเร็จรูป ถึงแม้ว่าจะช่วยให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้นก็ตาม แต่อาหารกึ่งสำเร็จรูปส่วนใหญ่มักจะใช้ไขมันค่อนข้างสูงในการปรุง และการคงรูป อีกทั้งไม่นับรวมถึงบรรดาเครื่องปรุงต่างๆ ที่นำมาปรุง ก็มักจะอุดมไปด้วยโซเดียม ซึ่งไม่ดีต่อร่างกายแน่นอน
- งดกินสมองสัตว์และอาหารที่ปรุงจากสมองของสัตว์ เพราะสมองของสัตว์นั้น เป็นส่วนที่มีคอเลสเตอรอลสูงมากเสมอ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์อะไรก็ตาม การหลีกเลี่ยงการรับประทานจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด หากไม่อยากให้สมองของเราเองถูกทำลายด้วยปริมาณของคอเลสเตอรอลที่สูงลิ่ว
- กินกระเทียมเป็นประจำ เคยได้ยินมาว่าการกินกระเทียมวันละ 1 หัว จะช่วยให้เรามีอายุยืน นั่นก็เป็นเพราะว่าในกระเทียมนั้นอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และยังช่วยในการลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือดได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้แล้วน้ำมันกระเทียมยังช่วยในการสมานแผล และลดอาการอักเสบที่เกิดขึ้นภายในร่างกายของเราได้เป็นอย่างดี
- กินถั่วให้ได้ทุกวัน เพราะในธัญพืชอย่างถั่ว นอกจากจะอุดมไปด้วยวิตามินต่างๆ แล้ว ยังมีกากใยอาหารค่อนข้างสูงด้วย เช่น ในถั่ว ลันเตา ที่มีทั้งวิตามินบี 2 และโปรตีน ถ้าจะให้ดีแนะนำว่าให้นำเอาถั่วและธัญพืชต่างๆ หุงรับประทานพร้อมกับข้าวกล้องเป็นประจำ นอกจากจะช่วยให้ข้าวมีสีสันและรสชาติที่อร่อยแล้ว ยังช่วยในการควบคุมปริมาณของคอเลสเตอรอลได้เป็นอย่างดี
- กินเนื้อสัตว์ให้น้อยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์ใหญ่อย่างหมูและวัว เพราะเนื้อของสัตว์เหล่านี้มีไขมันแทรกอยู่ค่อนข้างสูงทีเดียว พาลจะทำให้ปริมาณคอเลสเตอรอลสูงได้ จึงควรกินในปริมาณที่น้อย และที่สำคัญ คือ ควรเลือกกินเนื้อแบบไม่ติดมันด้วย และสำหรับในสัตว์ปีกอย่างไก่ เป็ด ให้รับประทานได้ แต่ควรลอกหนังออกแล้วค่อยนำมาปรุง เพราะสัตว์ปีกต่อมไขมันมักจะอยู่ที่หนัง เมื่อลอกออกแล้วจึงปลอดภัย
- กินปลาให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นปลาทะเล เพราะอาหารทะเลนอกจากจะอุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆ แล้ว ยังกินได้เพราะไม่ทำให้อ้วน อีกทั้งยังอุดมไปด้วยไขมันชนิดดีอย่าง DHA ซึ่งช่วยในการบำรุงระบบประสาท และสมองได้เป็นอย่างดี แต่ควรงดอาหารทะเลอื่นๆ เช่น กุ้ง และหมึก เพราะ 2 อย่างหลังนั้นอุดมไปด้วยคอเลสเตอรอลในปริมาณที่สูง
- เลี่ยงอาหาร ผัด ทอด เพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับไขมันในปริมาณที่มากจนเกินไป จนอาจจะเป็นอันตรายได้ หรือหากจำเป็นต้องปรุงอาหารด้วยการผัดหรือทอด ควรใช้น้ำมันในปริมาณที่น้อยเข้าไว้หรือใช้น้ำมันมะกอก เป็นต้น แต่หากเลี่ยงได้แนะนำให้ปรุงอาหารด้วยวิธีการ อื่นๆ อย่างการต้ม การนึ่งจะเหมาะสมกว่า
- กินผัก ผลไม้เป็นประจำ ในทุกมื้ออาหารให้มีผักเป็นส่วนประกอบได้จะดีมาก แต่หากทำไม่ได้ในหนึ่งวันจะต้องมีผักในอาหารอย่างน้อย 1 มื้อ เพราะในผักและผลไม้นั้นมีวิตามิน เกลือแร่ และกากใยอาหารจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตาม หากจะเลือกกินผลไม้ แนะนำให้เลือกผลไม้ที่มีรสชาติไม่หวานจัด เพราะอาจจะทำให้มีน้ำตาลในเลือดมากเกินไป และอาจจะทำให้เกิดโรคเบาหวานได้ในภายหลัง
การลดปริมาณคอเลสเตอรอลในร่างกายนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย เพียงแต่ต้องเคร่งครัด และสม่ำเสมอในการปฏิบัติให้เป็นกิจวัตรประจำวัน และที่สำคัญ คือ หากควบคุมอาหารและออกกำลังกายเป็นประจำ 3-6 เดือนแล้ว พบว่าคอเลสเตอรอลยังคงสูงอยู่ ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อหาสาเหตุที่ทำให้เกิดขึ้น และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคแทรกซ้อนอย่างโรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น ถ้าคุณอยากมีหุ่นสวยแบบสุขภาพดีคุณอาจสนใจบทความนี้ 10 เทคนิคลดความอ้วน
น้ำผักผลไม้ 10 ชนิด ดื่มแล้วสดชื่นและมีประโยชน์ต่อร่างกาย
น้ำผักผลไม้เหมาะกับอากาศร้อนๆ แบบนี้มากเลยทีเดียว และสามารถดับความร้อนอากาศเมืองไทยได้ วันนี้ก็มีน้ำผักผลไม้ 10 ชนิดที่ดื่มแล้วสดชื่นและดับร้อนได้ดีมากฝากกัน รับรองว่ามีประโยชน์ต่อร่างกาย ทานง่ายดื่มง่ายแน่นอน ไปดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
1. ว่านหางจระเข้
สำหรับว่านหางจระเข้นั้นเป็นสมุนไพรที่ส่งผลดีมากๆ ต่อผิวของเรา เพราะจะช่วยในการรักษาความชุ่มชื้นและยังมีวิตามิน B C และ E สูงมากๆ แถมยังมีเอนไซม์ที่มีส่วนช่วยในการเพิ่มการไหลเวียนของเลือด และยังช่วยในการรักษาเนื้อเยื่อผิวให้กลับมาเปล่งปลั่งได้อีกด้วย และยังมีสารที่สามารถต่อต้านอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี ซึ่งนั่นก็สามารถรักษาอาการตับอ่อนอักเสบได้ แถมยังมีประโยชน์ต่อกระเพาะลำไส้ ช่วยในการเพิ่มการทำงานของระบบย่อยอาหารอีกด้วย
2. แอปเปิ้ล
แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่ช่วยในการรักษาอาการท้องผูก และมีสารที่ชื่อว่า เพคติน ซึ่งมีส่วนช่วยในการรักษาสารพิษในลำไส้ และยังเป็นสารที่ดีต่อตับต่อไตอีกด้วย ช่วยในการสลายนิ่วในถุงน้ำดี โดยแอปเปิ้ลมีทั้งวิตามิน A และวิตามิน C และสารอาหารอีกมากมาย ซึ่งจากการวิจัยได้พบว่า การทานแอปเปิ้ลนั้นจะช่วยในการบำรุงสมองและลดการเกิดโรคได้หลายชนิดเลยทีเดียว
3. บีทรูท
บีทรูทเป็นผลไม้ที่ช่วยในการรักษาและทำความสะอาดให้กับเลือดและตับ ทำให้ผิวพรรณดูมีสุขภาพที่ดี และยังมีไนตริกออกไซด์ที่มีส่วนช่วยในการขยายหลอดเลือด และช่วยในการกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ช่วยรักษาระดับความดัน และยังช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระได้อีกด้วย และยังเต็มไปด้วยบีเทน ซึ่งก็เป็นการเพิ่มการไหลเวียนของน้ำดีและยังช่วยป้องกันเชื้อโรคได้อีกด้วย
4. แครอท
แครอทเป็นอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่เยอะมาก และยังช่วยในการป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ และช่วยในการชะลออาการแก่ก่อนวัยได้อีกด้วย ซึ่งแครอทก็เป็นผักที่มีวิตามิน C สูงมากๆ ทำให้ช่วยในการสร้างคอลลาเจนและโพแทสเซียมในร่างกาย และแครอทยังช่วยในการขับถ่ายกรดสารพิษในร่างกาย แถมยังช่วยในการลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคต่างๆ ได้อีกด้วย
5. มะพร้าว
มะพร้าวเป็นผลไม้ที่มีไขมันที่เกิดผลดีต่อร่างกายมากๆ ซึ่งน้ำมะพร้าวก็เป็นสิ่งหนึ่งที่คนไทยชื่นชอบและได้รับความนิยมสูงมาก โดยสรรพคุณของน้ำมะพร้าวก็จะช่วยในการเพิ่มความชุ่มชื้นในผิวและยังมีปริมาณน้ำตาลที่น้อย ทำให้น้ำมะพร้าวได้รับความนิยมมาก และยิ่งในเนื้อมะพร้าวเต็มไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารอีกมากมาย ทำให้ช่วยในการทำงานของร่างกายให้ดีขึ้น และช่วยในการย่อยอาหารด้วย
6. มะเขือเทศ
มะเขือเทศเป็นผลไม้ที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูง ซึ่งก็จะช่วยในการทำงานของร่างกายและสมอง แถมยังช่วยในการป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ได้อีกด้วย โดยมะเขือเทศจะประกอบไปด้วยวิตามิน B C และ K พร้อมกับแร่ธาตุอีกมากมายหลายชนิด และจากการวิจัยได้พบว่า มะเขือเทศมีส่วนช่วยในการลดโอกาสการเกิดโรคหัวใจ และโรคมะเร็งได้อีกด้วย และยังช่วยในการลดน้ำหนักตัว พร้อมทั้งลดคอเลสเตอรอล
7. ขึ้นฉ่าย
ขึ้นฉ่ายเป็นผักที่มีความสามารถในการเพิ่มการทำงานของร่างกายและสมอง ช่วยการลดการอักเสบ และยังเป็นสุดยอดผักที่เต็มไปด้วยวิตามิน A ซึ่งในก้านขึ้นฉ่ายก็ยังมีวิตามิน B1 B2 B6 และ C ซึ่งก็มีสารอาหารอีกมากมายหลายชนิด
8. แตงกวา
แตงกวาเป็นผักที่ช่วยในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ร่างกาย เพราะมีน้ำในแตงกวามากกว่าร้อยละ 90 ซึ่งก็จะทำให้ผิวพรรณมีสุขภาพที่ดี แถมยังทำให้ผิวมีความชุ่มชื่น และยังช่วยในการลดอาการอักเสบอีกด้วย และยังช่วยในการเสริมสร้าง ระบบย่อยอาหาร เพราะแตงกวาเต็มไปด้วยน้ำ และกากใยอาหาร
9. ขิง
ขิงเป็นสมุนไพรที่ออกฤทธิ์ทางยา ซึ่งขิงเป็นสมุนไพรไทยที่ช่วยในการแก้อาการคลื่นไส้หรืออาการท้องไส้ปั่นป่วนไม่แน่นอน และยังช่วยในการปกป้องตับ ช่วยเพิ่มความอบอุ่น และการไหวเวียนของเลือด ช่วยลดอาการอักเสบในร่างกาย โดยในขิงมีสารที่ต่อต้านอนุมูลอิสระมากกว่า 12 ชนิดอีกด้วย
10. มะนาว
มะนาวเป็นผลไม้รสเปรี้ยว ที่มีวิตามิน C แบบเด่นมากๆ และยังมีวิตามิน B และอื่นๆ ที่จะช่วยในการต่อต้านเซลล์มะเร็ง และยังช่วยในการรักษาต่อมไทรอยด์ ช่วยในการย่อยอาหารมากขึ้น
น้ำผักผลไม้ปั่นเป็นอีกวิธีที่ยอดเยี่ยมในการรับประทานผักและผลไม้ในแต่ละวัน ไม่เพียงแต่อร่อยเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย ทั้งวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งสามารถช่วยให้สุขภาพโดยรวมของคุณดีขึ้น ลดความเสี่ยงต่อโรค และเป็นสามารถช่วยลดน้ำหนักของคุณได้ด้วย
อยากอยากหุ่นดี ส่อง 15 เคล็ดไม่ลับ สวยได้ ง่ายกว่าที่คุณคิด
อยากสวย 15 เคล็ดไม่ลับ สวยได้ ง่ายกว่าที่คุณคิด เคล็ดลับที่ไม่ลับ ฉบับผู้หญิงอยากสวยทำตามได้แบบง่ายๆ จนไม่น่าเชื่อว่ามีวิธีแบบนี้ด้วยเหรอ ไม่ต้องเข้าคลินิกความงาม ไม่ต้องเข้าสปาก็สามารถทำสวยได้ที่บ้าน
1. น้ำแข็ง
รู้หรือไม่ว่าน้ำแข็งนั้นสามารถช่วยปิดและกระชับรูขุมขนได้เป็นอย่างดี เพียงนำมาถูเบาๆ บริเวณใบหน้า หลังจากทำความสะอาดใบหน้าเรียบร้อยแล้ว ทำง่ายๆ ได้ผลลัพธ์ดีกว่าที่คุณคิด นอกจากนี้ยังช่วยลดการอักเสบจากสิวอีกด้วย
2. กล้วย
กล้วยมีดีทั้งต้น ใบ ผล ใช้ประโยชน์ได้ทุกอย่าง และเราจะเอามาใช้ประโยชน์กับผิวกันบ้าง ทั้งทานได้เลยช่วยให้ลดความอยากอาหาร และรักษาระดับเลือด
นอกจากนี้เปลือกกล้วยยังนำมาสครับใบหน้าได้ เพราะว่าเปลือกกล้วยด้านในมีเอมไซม์ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวเก่า ให้ความชุ่มชื้น ถูเบาๆ ประมาณ 1 นาที แล้วล้างออกตามปกติ
3. มาส์กหน้า
แผ่นมาส์กที่คุณสามารถหาซื้อได้ทั่วไป ช่วยบำรุงผิวได้มากกว่าที่คุณคิด ราคาถูก ใช้ง่าย และอุดมไปด้วยสารอาหารที่ผิวต้องการเป็นจำนวนมาก
4. สเปรย์น้ำแร่
เพราะว่าผิวหน้ามักจะขาดความชุ่มชื้นระหว่างวัน เราจึงควรพกสเปรย์ฉีดหน้าเอาไว้ติดตัวเสมอ เมื่อรู้สึกว่าผิวหน้าเริ่มแห้ง เราก็สามารถเติมความชุ่มชื้นได้ตลอดเวลา นอกจากนี้สเปรย์น้ำแร่ฉีดหน้ายังช่วยลดการอักเสบของผิวได้เป็นอย่างดี
5. นวดๆ ง่าย
ข้อดีของการนวดที่เรารู้กันก็คือทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดสมดุล แต่รู้หรือไม่การนวดเบาๆ ที่ต้นคอ จะช่วยให้กล้ามเนื้อลดความตึงเครียด ป้องกันไม่ให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้จะไปหยุดการผลิตคอลลาเจนของร่างกาย ทำให้ผิวพรรณเหี่ยวย่นได้
6. วิ่ง
แน่นอนว่าการออกกำลังกายจะช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์หลายอย่าง และในนี้เราจะเสนอวิธีการวิ่งอยู่กับที่ ไม่น่าเชื่อว่าการวิ่งอยู่กับที่เพียงแค่ 1 นาที จะช่วยเลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ระบบเผาผลาญ และระบบออกซิเจนดีขึ้น ช่วยให้มีเลือดฟาด ผิวหน้าสดใส
7. กากกาแฟ
กากกาแฟ + น้ำมันมะกอก สามารถนำมาขัดผิวได้ เพื่อกำจัดเซลลูไลท์ นวดเบาๆ เป็นวงกลมเพิ่มระบบไหลเวียนของเลือดได้ดี ช่วยให้การระบายน้ำเหลืองดีขึ้น และคาเฟอีนในกาแฟยังช่วยกระชับผิวอีกด้วย
8. น้ำมันหอมละเหย
น้ำมันหอมละเหยไม่ได้มีดีเพียงหอมเท่านั้น แต่ยังช่วยทำความสะอาดโพรงจมูก ร่างกายผ่อนคลาย ความเครียดลดลง เปิดให้ออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น สงบ และจิตแจ่มใส มีผลให้ร่างกายดีขึ้นทุกสัดส่วน
9. ชา
ชานั้นมีคาเฟอีนที่ช่วยให้ผิวไม่ขาดน้ำ มีสารต้านอนุมูลอิสระ ผิวสวยจะช่วยให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนได้ดีขึ้น และถ้าจะให้ดีชาที่ดีท็อกซ์ลำไส้จะช่วยขับของเสียออกจากร่างกายได้อย่างหมดจด
10. สระผมด้วยน้ำอุ่น
น้ำอุ่นจะช่วยเปิดเกล็ดผม และทำให้สิ่งสกปรกหลุดออกได้ง่ายมากกว่าน้ำเย็น หลังจากล้างออกจนหมดแล้วให้ใช้น้ำเย็นปิดท้าย เพื่อปิดเกล็ดผม และเก็บสารประโยชน์จากครีมนวดเอาไว้ในเส้นผม
11. น้ำมันวิตามินอี
น้ำมันวิตามินอี คือสารจะช่วยให้ร่างกายต่อต้านอนุมูลอิสระได้ดีขึ้น และยังมีส่วนช่วยบำรุงผิวให้มีความสดใส และป้องกันสิวได้เป็นอย่างดี ลองใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินอี แล้วคุณจะรู้ว่าผิวสวยได้ง่ายๆ กว่าที่คุณคิด
12. ไข่ขาว
วิธีนี้หลายคนคงรู้กันอยู่ แต่เราอยากมาบอกอีกที เพราะว่าเป็นวิธีที่นิยมอย่างมาก การมาส์กหน้าด้วยไข่ขาวจะช่วยกำจัดสิว ลดความมันบนใบหน้า กระชับรูขุมขน ทำง่ายๆ แค่เอาไข่ขาวมาทาหน้า และเอากระดาษทิชชูมาแปะเอาไว้ รอจนแห้งแล้วลอกออก จากนั้นล้างหน้าตามปกติ
13. แต่งหน้าบางๆ
เชื่อหรือไม่ผู้หญิงหลายคนชอบจัดชุดใหญ่ให้ใบหน้า เครื่องสำอางจัดเต็มจนไม่เหลือเค้าใบหน้าเดิม แล้วคิดว่านี่แหละคือความสวย แต่จากผลการวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ในวารสาร The Quarterly Journal of Experimental Psychology ทำให้ได้ข้อสรุปว่า ผู้หญิงที่มีเสน่ห์ดึงดูด น่าสนใจ คือผู้หญิงที่แต่งหน้าบางๆ ไม่ว่าจะต่อเพศชายหรือเพศหญิงด้วยกัน
14. ท่าทาง
ท่าทางก็สามารถสร้างความสวยและดูดีได้ จากผลการวิจัยพบว่า การขยับร่างกายสื่อภาษาต่างจะช่วยให้ดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น เช่น การลูบคอ เสยผม การใช้สายตา เป็นต้น
15. ฉีดน้ำหอม
สิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้เราสวย และน่าใกล้ชิดคือความหอม แต่ว่าเราจะทำอย่างไรให้น้ำหอมที่ฉีดติดทนนานที่สุด การทาวาสลีนแบบไม่กลิ่นช่วยได้ เพียงแค่ทาเอาไว้ตรงจุดต่างๆ ที่ต้องการฉีดน้ำหอม เพียงเท่านี้รับรองว่ากลิ่นของน้ำหอมจะติดตลอดวันแน่นอน
นี่ก็เป็นเคล็ดลับความสวยความงามที่เรานำมาฝากกัน และวิธีที่แนะนำก็มีประสิทธิภาพจริงๆ แถมยังทำได้ง่าย เพราะเราเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนใครๆ ก็อยากมีรูปร่างดีและผิวพรรณดีด้วยกันทั้งนั้น
แหล่งอ้างอิง
8 Ways to Lose Weight Without Dieting : https://www.arthritis.org/health-wellness/healthy-living/nutrition/weight-loss/8-ways-to-lose-weight-without-dieting
11 Tips to Cut Your Cholesterol Fast : https://www.webmd.com/cholesterol-management/features/11-tips-to-cut-your-cholesterol-fast