อาหารเสริมลดความอ้วน 10 แบรนด์ที่ปลอดภัย ช่วยให้รูปร่างผอมเพรียว
อาหารเสริมลดความอ้วน หรือยาลดความอ้วนเป็นหนึ่งตัวเลือกหลักในการช่วยควบคุมน้ำหนัก กระชับหุ่นให้เฟิร์มเป๊ะ ยาลดน้ำหนักในปัจจุบันมีขายอยู่มากมายนับร้อยแบรนด์ ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีแบรนด์ที่ไม่โปร่งใส ไม่ได้คุณภาพ ไม่มีเครื่องหมาย อย. กำกับ หรือแอบอ้างสวมเลข อย. การจะเลือกรับประทานอาหารเสริมเจ้าใหม่ๆ จึงจำเป็นต้องตรวจสอบคุณภาพให้ดีก่อน
ว่าด้วยเรื่องของน้ำหนักตัว เชื่อเถอะว่าผู้หญิงกว่าครึ่งไม่ค่อยอยากพูดถึงมันนักหรอก เพราะพูดไปก็ทำให้เจ็บใจเสียเปล่าๆ และหลายคนก็ลองแทบจะหมดทุกวิธีการ แต่ก็ไม่สามารถที่จะลดน้ำหนักลงได้อย่างที่ต้องการ ที่เหลือก็คงต้องมองหาตัวช่วยกันแล้วล่ะ ซึ่งตัวช่วยที่เราพูดถึงก็คือ อาหารเสริมลดความอ้วนหรือวิตามินอาหารเพื่อสุขภาพ นั่นเอง และวันนี้จะมาเปิดโผ 10 อันดับอาหารเสริมลดความอ้วน ตัวไหนดี ตัวไหนดัง มีตัวไหนบ้างที่กินแล้วเห็นผล ช่วยให้รูปร่างผอมเพรียวและไม่เป็นอันตราย มาดูกันเลยดีกว่า
รีวิว 10 อาหารเสริมลดความอ้วน ยี่ห้อไหนดี และมี อย. วางใจได้ ปี 2022
วันนี้ มาเซย์จัง มี 10 แบรนด์ อาหารเสริมลดความอ้วน มี อย. วางใจได้ ที่การันตีด้วยการขึ้นทะเบียนรับรองต่างๆ และรีวิวจากผู้ใช้จริงว่าปลอดภัย เห็นผลจริง และมีมาตรฐาน ในปี 2022 นี้จะมีแบรนด์ที่คุณเลือกทานอยู่หรือไม่ ลองมาดูกัน
1. Slenza
อาหารเสริมลดความอ้วน ยี่ห้อไหนดี บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่า Green Tea Extract และ Green Apple มีส่วนช่วยในการควบคุมน้ำหนัก ข้อดีคือทานง่ายมาก เพราะเป็นผลผลิตจากธรรมชาติทำให้เราสามารถลดน้ำหนักได้นอกจากนี้ยังมีความปลอดภัย โดยได้รับการรับรองจาก อย. ซึ่งแคปซูลลดน้ำหนักตัวนี้ยังมี แอล คาร์เนทีน ที่จะช่วยในการดึงไขมันออกมาใช้ให้เป็นพลังงาน ทำให้ไขมันในร่างกายน้อยลง และถ้าเราคุมอาหารควบคู่ไปด้วย รับรองว่าสุขภาพดีแน่นอน แถมยังมีราคาที่ไม่แพง เหมาะกับหลายคนที่กำลังหาตัวช่วยลดน้ำหนัก
🌟 เลข อย. : 11-1-13958-5-0202
🌟 กินได้ : 10 วัน
🌟 ราคา : 490 บาท
เพิ่มเติม : www.slenza.com/weight-loss/
2. Amado S COMPLEX GARCINIA
อาหารเสริม ตัวนี้มี อย. มากับอาหารเสริมแนวแคปซูลที่มีความปลอดภัยในการใช้งาน และยังได้มาตรฐานจาก อย. ฮาลาล. GMP และ FDA ซึ่งอาหารเสริมตัวนี้ประกอบไปด้วยสารสกัดที่มาจากธรรมชาติมากมายโดยมีคุณสมบัติในการดักจับไขมัน ช่วยลดการดูดซึมของไขมันในร่างกาย นอกจากนี้ยังสามารถทำให้การเผาผลาญในร่างกายดีขึ้นอีกด้วย ทำให้สามารถลดน้ำหนักได้ดี มี อย. วางใจได้ Amado S มีรีวิวจากผู้ใช้อีกด้วย สินค้าตัวนี้ดีมากจริงๆ
🌟 เลข อย. : 11-1-11054-1-0158
🌟 กินได้ : 10 วัน
🌟 ราคา : 590 บาท
เพิ่มเติม : www.amadoplus.com/#อมาโด้-เอส
3. PHYTENEY
อาหารเสริมลดความอ้วนที่ดีที่สุด จาก ดร.บุ๋ม ปนัดดา คอนเฟิร์มลด 16 โล ตัวนี้บอกก่อนเลยว่าได้รับการรับรองจากทั้ง อย. ฮาลาล และ GMP ทำให้สามารถมั่นใจในความปลอดภัยได้เลยว่าสินค้าตัวนี้ปลอดภัยจริงๆ โดยมีคุณสมบัติของสมุนไพรที่ช่วยในการสร้างเสริมวิตามินซีและวิตามินบี ซึ่งก็มีส่วนช่วยในการทำให้ผิวพรรณดีขึ้น มีการรับรองว่าตัวนี้มีความปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง ไม่เกิดอาการโยโย่ ทำให้ตัวนี้เป็นอาหารเสริมที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ต้องการของตลาดมากๆ
🌟 เลข อย. : 73-1-19156-1-0131
🌟 กินได้ : 30 วัน
🌟 ราคา : 1,250 บาท
เพิ่มเติม : www.pantip.com/topic/35028144
4. ITCHA อาหารเสริมลดน้ำหนัก
มาอีกแล้วกับอาหารเสริมลดน้ำหนักของนักแสดงดังอย่าง จั๊กจั่น อคัมย์สิริ ซึ่งตัวนี้เป็นอาหารเสริมที่มาแรงสุดๆ แน่นอนว่าได้รับการรับรองจาก อย. และ GMP มาแล้ว โดยตัวสินค้ามีสีสันที่ชวนทาน ส่วนประกอบส่วนใหญ่นั้นมาจากธรรมชาติ ซึ่งให้ความรู้สึกเดียวกันกับการดื่มน้ำผลไม้ มีคุณสมบัติในการเร่งกระบวนการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย และยังช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนในผิว ทำให้ผิวดูขาวเรียบเนียน กระจ่างใส และยังสามารถลดน้ำหนักได้ด้วย ราคาถือว่าเหมาะกับคนไทย เพราะไม่แพงมากจนเกินไป
🌟 เลข อย. : 10-1-13058-1-0069
🌟 กินได้ : 10 วัน
🌟 ราคา : 490 บาท
เพิ่มเติม : www.itcha-thailand.com
5. Praya By L.B อาหารเสริมลดน้ำหนัก
อาหารเสริมควบคุมน้ำหนักที่ดีที่สุด จาก ปู ไปรยา โดยตัวนี้ก็เป็นอีกตัวที่ได้รับการรับรองจาก อย. มาแล้วว่ามีความปลอดภัย มีคุณสมบัติในการสกัดจับไขมันที่จะเข้าสู่ร่างกาย และยังสามารถเร่งการใช้ไขมันเก่าได้ด้วย ทำให้ได้ผลเหมือนการออกกำลังกาย เหมาะกับคนที่มีเวลาน้อยหรือไม่มีเวลาว่างเลยที่จะไปออกกำลังกาย ตัวนี้ถือว่าช่วยได้มาก แถมยังเป็นสินค้าที่ดาราไทยนิยมทานและมีอีกหลายรีวิวอีกด้วย
🌟 เลข อย. : 13-1-01760-5-0054
🌟 กินได้ : 30 วัน
🌟 ราคา : 590 บาท
เพิ่มเติม : www.facebook.com/project.Praya.byLB
6. VERENA SURE
อาหารเสริมตัวนี้มีสิทธิบัตรเทคโนโลยีมาตรฐานการผลิตจากเบลเยี่ยม ในด้านของการดักจับไขมันของพืช แน่นอนว่าได้มาตรฐานจาก GMP และ อย. โดยมีคุณสมบัติการทำงานคือสามารถละลายได้เร็วขึ้น โดยมีส่วนประกอบของสารสกัดจากไคโตซาน ซึ่งจะช่วยในการดักจับไขมันก่อนที่มันจะเข้าสู่ร่างกาย ทำให้ร่างกายได้รับไขมันน้อยลง และยังช่วยการขับถ่ายดีขึ้น โดยแบรนด์นี้ก็ได้นำเอาสาววุ้นเส้นมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ทำให้ยอดขายพุ่งกระฉูดเลยทีเดียว
🌟 เลข อย. : 20-1-13451-1-0018
🌟 กินได้ : 30 วัน
🌟 ราคา : 650 บาท
เพิ่มเติม : www.watsons.co.th
7. Garcinia Cambogia Extract THE NATURE
อีกแบรนด์ อาหารเสริมลดความอ้วน เห็นผลดี ที่อิมพอร์ตมาจากอเมริกา เป็นอาหารเสริมชนิดแคปซูล โดยมีมาตรฐานการผลิตที่ได้รับการการันตีจาก GMP และ อย. ถึงความปลอดภัย โดยวัตถุดิบของอาหารเสริมตัวนี้คือ ส้มแขก และมังคุด สรรพคุณทั่วไปคือ สามารถบล็อกการทำงานของไขมันที่จะเข้าสู่ร่างกายได้ และป้องกันการดูดซึมไขมัน ลดอาการอยากอาหาร อารมณ์ดี หลับง่าย ไม่กดประสาท แน่นอนว่าสินค้าจากธรรมชาติแบบนี้ ไม่มีผลข้างเคียงแน่นอน นอกจากนี้ยังทำให้ลดน้ำหนักได้ไวขึ้นอีกด้วย
🌟 เลข อย. : 10-1-03856-1-0128
🌟 กินได้ : 30 วัน
🌟 ราคา : 490 บาท
เพิ่มเติม : www.pantip.com/topic/37276005
8. BLOCK 4 SLIM BY GIFFARINE
ตัวนี้เป็น อาหารเสริมลดความอ้วน ที่อยู่ในแบรนด์ของ Giffarine แน่นอนว่าจะมีความน่าเชื่อถือในด้านของการผลิตอยู่สูงมาก เพราะเป็นแบรนด์สินค้าที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน และได้รับการรับรองจาก อย. แล้วว่า เป็นสินค้าที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย โดยสินค้าตัวนี้ ผลิตมาจากสารสกัดของถั่วขาวและถั่วเหลือง
ซึ่งสามารถบล็อกการดูดซึมของแป้งและไขมัน อันเป็นสาเหตุที่จะไปทำให้เกิดการสะสมไขมันในร่างกายได้ บางคนอาจจะคิดว่าแบบนี้ก็กินตามใจปากได้เลยสิ แต่ทางที่ดีก็ควรคุมอาหารไปด้วยจะดีที่สุด
🌟 เลข อย. : 13-1-03440-1-0074
🌟 กินได้ : 30 วัน
🌟 ราคา : 780 บาท
เพิ่มเติม : www.welovegiffarine.com/บล็อคแป้ง-กิฟฟารีน/
9. KALYPZO
มากับ อาหารเสริมลดความอ้วน ที่เป็นแนวชงดื่มกัน แน่นอนว่าตัวนี้ได้รับมาตรฐานจาก อย. และ GMP แล้ว โดยจากผู้ใช้ บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ให้ความรู้สึกเหมือนเครื่องดื่มมากกว่าอาหารเสริม โดยมีสรรพคุณจากธรรมชาติมากถึง 19 ชนิด
มีคุณสมบัติช่วยในการลดอยากอาหาร ลดไขมันสะสมบริเวณร่างกาย ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดูขาวกระจ่างใส ช่วยเพิ่มการสร้างกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น และทีเด็ดคือช่วยสร้างคอลลาเจนในร่างกาย ซึ่งก็เป็นส่วนที่ช่วยให้ผิวดูสดใสได้มากที่สุด
🌟 เลข อย. : 24-1-20555-1-0356
🌟 กินได้ : 30 วัน
🌟 ราคา : 900 บาท
เพิ่มเติม : www.facebook.com/kalypzoslim.sale
10. SASUNSA
“ฉีก อม กลืน” สามคำง่ายๆ กับวิธีกินอาหารเสริมสินค้าตัวนี้ โดยได้ผ่านการผลิตมาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้มาตรฐานการผลิต GMP, GLP และ อย. จากเมืองไทย โดยมีส่วนประกอบมากมายหลายชนิด ทั้งส้มแขก ถั่วแขก และโปรตีนถั่วเหลือง ซึ่งมีคุณสมบัติในการลดไขมันในร่างกาย และยังช่วยในการเพิ่มกล้ามเนื้อ เพื่อการเผาผลาญพลังงาน แต่สำหรับคนที่แพ้ถั่วจะต้องเช็คข้อมูลให้ดี เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นกับร่างกาย แน่นอนว่าตัวนี้ได้รับการตอบรับที่ดีมาก
🌟 เลข อย. : 13-1-15859-5-0050
🌟 กินได้ : 14 วัน
🌟 ราคา : 790 บาท
เพิ่มเติม : www.pantip.com/topic/35037657
จะเห็นได้ว่า อาหารเสริมลดความอ้วน เหล่านี้มีหลากหลายรูปแบบและหลายราคาให้เราได้เลือกกันอย่างหลากหลายทีเดียว แต่เป็นการแก้แค่ปลายเหตุเท่านั้น หากอยากลดน้ำหนักอย่างถาวรควรเลือกทานอาหารเสริมลดน้ำหนัก ควบคุมอาหารกับการออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วยจึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ดี
วิธีกินยาลดความอ้วน กินอย่างไรให้ไม่เสี่ยง
วิธีกินยาลดความอ้วน กินอย่างไรให้ไม่เสี่ยง เรื่องของการมีรูปร่างที่ดีเชื่อว่าเป็นความต้องการของใครหลายๆ คนทีเดียว แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักหรือออกกำลังกายเสมอไป เพราะหลายคนอาจจะมีเวลาที่ไม่ได้มากนัก หรือต้องการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว
ซึ่งแน่นอนว่า อาหารเสริมลดความอ้วน หรือยาลดน้ำหนัก ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของหลายคน ซึ่งอาจจะฟังดูแล้วเหมือนอันตราย แต่ความจริง คือ หากเราดูแลตัวเองและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เป็นประจำ การกินยาลดน้ำหนักก็ไม่ได้เป็นอันตรายเสมอไป ซึ่งวิธีการกินยาลดน้ำหนักให้ปลอดภัยนั้น เราได้รวบรวมมาไว้แล้วที่นี่ ดังนี้
1. เลือกยาลดความอ้วนให้ดี
เลือก อาหารเสริมลดความอ้วน ให้ดี ก่อนอื่นเลยที่เราจะเริ่มกินยา เราควรหาข้อมูลเกี่ยวกับยาหรืออาหารเสริมลดความอ้วนนั้นๆ ก่อน ว่าเป็นอย่างไร และปลอดภัยหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารเสริมในท้องตลาดที่มีมากมายในขณะนี้ แนะนำว่าให้เลือกหายาหรืออาหารเสริมลดน้ำหนัก ที่มีเครื่องหมาย อย. จะดีกว่า เพราะอย่างน้อยก็ถือว่าได้รับการรับรองมาแล้วว่าปลอดภัย และไม่มีสารอันตรายที่อาจจะทำให้เกิดการเสียชีวิตได้
2. วันแรกคือการปรับตัว
วันแรกคือ การปรับตัว สำหรับคนที่กินยาลดความอ้วนครั้งแรก วันแรกในชีวิต เชื่อว่าทุกคนจะต้องมีอาการใจสั่น ปากสั่น หัวใจเต้นแรง อย่าพึ่งตกใจไป ให้รอดูอาหารอีกประมาณ 4-5 วัน หากอาการยังไม่หายไป ค่อยตัดสินใจพบแพทย์เพื่อปรึกษา และหยุด หรือเปลี่ยนยา ก็ยังทัน เพราะวันแรกนั้นร่างกายจะกำลังปรับตัวให้คุ้นชินกับการเผาผลาญไขมันที่เร็วและแรงกว่าที่เคยเป็น
3. 5-10 วันแรก ควรกินยาลดความอ้วนหลังอาหาร
5-10 วันแรก ควรกินยาลดความอ้วนหลังอาหาร สำหรับมือใหม่หัดกินยาลดน้ำหนัก แนะนำว่าในช่วง 5-10 วันแรก ให้รับประทานอาหารก่อนสัก 10 นาที แล้วจึงกินยาลดความอ้วนตามเข้าไป เพื่อให้ร่างกายของเราค่อยๆ ปรับตัว และลดอาหารใจสั่นที่อาจจะเกิดขึ้น เมื่อพ้นระยะดังกล่าวจึงกินยาก่อนอาหารได้
4. ดื่มน้ำให้มาก
ดื่มน้ำให้มาก คนที่กินยาลดความอ้วนส่วนใหญ่จะมีอาการปากแห้ง คอแห้ง ซึ่งถือว่าเป็นอาการปกติมากสำหรับคนที่กินยาลดน้ำหนักทุกคน แนะนำให้ดื่มน้ำให้มากเข้าไว้ แต่ไม่ใช่ดื่มรวดเดียว ควรจิบน้ำบ่อยๆ แต่ให้ได้อย่างน้อยวันละ 3-4 ลิตร หรือมากกว่าที่เคยกินปกติสักเล็กน้อยจะดีกว่า
5. ควรกินอาหารทุกมื้อ
ควรกินอาหารทุกมื้อ ถึงแม้ว่าเราจะลดความอ้วนอยู่ก็ตาม แต่การอดอาหารในขณะที่กินยาลดความอ้วนนั้น ถือว่าเป็นการทำร้ายระบบเผาผลาญอย่างร้ายแรงทีเดียว และนอกจากนี้ต่อให้คุณอาจจะรู้สึกไม่อยากอาหาร แต่ก็ควรจะกินอะไรเข้าไปบ้าง เพื่อให้ร่างกายมีพลังงานที่เพียงพอในการใช้ชีวิต และไม่ทำให้ร่างกายขาดสารอาหารในภายหลัง
6. อย่ากินยาเยอะ
อย่ากินยาหรืออาหารเสริมลดน้ำหนักหลายตัวพร้อมกัน หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าอาหารเสริมลดน้ำหนักหลายตัวที่บอกว่า มาจากธรรมชาติ มักจะมีส่วนผสมของยาลดความอ้วนอยู่ด้วย และหากคุณกำลังกินยาลดความอ้วนอยู่ และกินอาหารเสริมเหล่านั้นไปด้วย เท่ากับว่าเป็นการรับยาลดน้ำหนักหลายทาง อาจจะก่อให้เกิดอาการโอเวอร์โดส หรือการช็อกจากการรับยาลดความอ้วนมากเกินไปก็ได้ ดังนั้น ควรเลือกกินแค่อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้นก็พอ
7. พยายามพักผ่อนให้เพียงพอ
พยายามพักผ่อนให้เพียงพอ หลายคนที่กินยาลดน้ำหนัก อาจจะเกิดอาการตาค้าง นอนไม่ค่อยหลับ เนื่องจากการทำงานของระบบเผาผลาญพลังงานในร่างกายที่มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามร่างกายของคุณต้องการพักผ่อน ให้ลองสังเกตตัวเองว่า กินยาช่วงไหนแล้วนอนไม่หลับ ให้เลื่อนเวลาในการกินยาลดความอ้วนให้เร็วขึ้นไปอีก 1 มื้อ เพื่อให้ยาหมดฤทธิ์ในเวลากลางคืน และร่างกายจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ เป็นเทคนิคสำหรับลดความอ้วนที่ง่ายและขอแค่คุณต้องหลับพักผ่อนให้เพียงพอเท่านั้น
8. หยุดยาอย่างไร ไม่ให้ร่างพัง
หยุดยาอย่างไร ไม่ให้ร่างพัง นอกจากการเริ่มกินยาลดความอ้วนแล้ว การหยุดยาก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่หลายคนถามมาเยอะเหมือนกัน ว่าควรจะหยุดยาอย่างไรจึงจะปลอดภัย เรามีคำตอบมาให้ วิธีการหยุดยาลดน้ำหนักที่ดีที่สุด คือ การค่อยๆ ลดปริมาณของการกินยาลงเรื่อยๆ จากที่เคยกินวันละ 1 เม็ด ก็อาจจะเหลือแค่ 2-3 วันต่อเม็ด และออกกำลังกายควบคู่กับไป เพื่อให้ระบบเผาผลาญยังทำงานเหมือนกับตอนที่กินยาอยู่ นอกจากนี้ควรควบคุมอาหารด้วย เพื่อให้รูปร่างที่สวยงามยังอยู่กับเราต่อไป อีกนานๆ โดยไม่ต้องกลับมาพึ่งยาลดน้ำหนักอีกครั้งหนึ่ง
9. ระวังผลข้างเคียง
หากกินยาแล้วใจสั่นตลอดเวลา และมีอาการประสาทหลอน แนะนำว่าควรหยุดยาและไปหาหมอโดยด่วน เพราะไม่แน่ว่าคุณอาจจะแพ้ หรือไม่ก็ในยาหรืออาหารเสริมนั้นๆ อาจจะมีสารอันตราย เช่น ไซบูทรามีน ซึ่งเป็นสารที่ห้ามใช้ในประเทศไทย แต่ก็ยังมีการลักลอบนำเข้ามาผลิตยาลดความอ้วนเถื่อนอยู่เป็นพักๆ
ทั้งนี้ การกินยาลดความอ้วนจะไม่ได้ผลเลย หากพฤติกรรมการกินของเรายังเหมือนเดิม ดังนั้น ควรควบคุมอาหาร กินอาหารให้ช้าลง และออกกำลังกายไปด้วย ควบคู่กับการกินอาหารเสริม หรือยาลดความอ้วน เพื่อให้รูปร่างของเรากระชับขึ้น
และนอกจากนี้แล้วยังช่วยให้ระบบการเผาผลาญพลังงานในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ทำให้น้ำหนักลดลงได้เร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย ที่สำคัญ คือ ควรหมั่นตรวจสุขภาพของตัวเองเป็นประจำด้วย เพื่อที่เมื่อพบสิ่งผิดปกติจะได้พบแพทย์ได้ทันท่วงที เพียงเท่านี้คุณก็กินอาหารเสริมลดความอ้วนได้อย่างปลอดภัยแล้ว
อาหารเพื่อสุขภาพ 5 ดีต่อใจ ดีต่อร่างกาย
อาหารเพื่อสุขภาพ 5 ดีต่อใจ ดีต่อร่างกาย อาหารเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์ และแน่นอนว่าการกินอาหารที่ดีกับร่างกาย นอกจากจะส่งผลกับร่างกายในตอนที่กินแล้ว ยังเป็นผลดีกับสุขภาพในระยะยาวด้วย ซึ่งสำหรับหลายคนอาจจะบอกว่าการหาอาหารไม่ทำให้อ้วนที่ดีกับสุขภาพมากินนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
เพราะนอกจากจะไม่มีเวลาแล้ว หลายครั้งเราพบว่า อาหารตามร้านอาหารมักจะมีส่วนผสมที่ไม่ค่อยดีต่อสุขภาพ แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งในหัวข้อนี้ เราจะชวนคุณมาทำอาหารเพื่อสุขภาพแบบง่ายๆ ไว้รับประทานกัน ซึ่งการทำอาหารกินเอง หากซื้อวัตถุดิบชนิดเดียว แต่ใช้ได้หลายๆ เมนูจะช่วยให้ประหยัดกว่ามากทีเดียว และที่สำคัญ คือ ทำให้คุณมีสุขภาพทีดีมากขึ้นด้วย และเมนูอาหารเพื่อสุขภาพที่เราจะแนะนำ ได้แก่
1. ห่อหมกปลาดอร์รี่
เมนูที่อุดมไปด้วยสารอาหารและรสชาติจัดจ้านแบบไทยๆ ด้วยปลาดอร์รี่แบบแช่แข็ง เหมาะสำหรับแม่บ้านสำเร็จรูปแบบเราๆ มาก
วัตถุดิบ เนื้อปลาดอร์รี่, พริกแกงเผ็ด,ไข่ไก่, นมสดไขมันต่ำ, น้ำปลา, ใบโหระพาลวก, ใบมะกรูดหั่นฝอย, พริกหั่นฝอย
วีธีทำ
– ก่อนอื่นต้องนำเนื้อปลา พริกแกงเผ็ด นมสด และไข่ไก่ ไปแช่ให้เย็นเสียก่อน เพื่อที่เวลาผสมจะทำให้เนื้อของห่อหมกเนียนขึ้น
– นำเนื้อปลาดอร์รี่มาผสมกับพริกแกงเผ็ด จากนั้นตอกไข่ไก่ลงไป และค่อยๆ ใส่นมสดลงไปผสมคลุกเล้าให้เข้ากัน
– ปรุงรสด้วยน้ำปลา หากใครที่เป็นสายคลีนจัดๆ อาจจะใช้เป็นน้ำปลาแบบโซเดียมต่ำก็ได้
– หาถ้วยหรือกระทงใบตองมารอง ตามด้วยใบโหระพาที่ลวกเอาไว้แล้ว
– ตักห่อหมกที่คลุกเคล้าเอาไว้ ลงในถ้วยหรือกระทง
– นำไปนึ่งประมาณ 10-15 นาที หรือจนกว่าจะสุก แล้วนำมาตกแต่งด้วยพริก และใบมะกรูดหั่นฝอย
2. ข้าวกล้องคลุกสับปะรดและอกไก่
เมนูง่ายๆ ได้กินแบบด่วนๆ เหมาะสำหรับสายคลีนที่ใจร้อนหรือมีอุปกรณ์น้อย เพราะแค่มีไมโครเวฟก็ได้กินแล้ว สำหรับเมนูนี้
วัตถุดิบ ข้าวกล้อง, อกไก่หั่นชิ้น, สับปะรดหั่นชิ้น, ผักสด, มะนาว
วิธีทำ เหมือนกันกับการทำข้าวผัด เพียงแต่เป็นข้าวผัดแบบไม่มีน้ำมันเท่านั้นเอง เพราะเพียงแค่นำข้าวกล้องมาคลุกกับสับปะรดและอกไก่ จากนั้นนำไปอุ่นในไมโครเวฟจนเนื้อไก่สุกก็เป็นอันเสร็จกินได้เลย สำหรับเมนูนี้บอกได้เลยว่าแทบไม่ต้องปรุง หรือหากใครจะปรุง แนะนำให้ใส่น้ำปลาแบบโซเดียมต่ำและบีบมะนาวแค่นี้ก็อร่อยแล้ว เพราะได้ความหวานจากสับปะรดมาช่วยตัดรสนั่นเอง
3. น้ำพริกอ่อง
สำหรับคนที่ชอบอาหารเหนือจะต้องชอบเมนูนี้อย่างแน่นอน เพราะน้ำพริกอ่องถือว่าเป็นอีกหนึ่งอาหารทางภาคเหนือที่มีรสชาติค่อนข้างถูกปากคนไทย และในวันนี้เราจะมาทำน้ำพริกอ่องสูตรคลีน เพื่อให้คนที่กำลังมองหาอาหารเพื่อสุขภาพได้ลองทำดู
วัตถุดิบ หอมแดง, กระเทียม, พริกแห้ง, ถั่ว, เกลือ, น้ำมันมะกอก , เนื้ออกไก่ลอกหนังบด, มะเขือเทศหั่นเต๋า, น้ำมะขามเปียก, น้ำผึ้ง
วิธีทำ ตำหอมแดง กระเทียม พริกแห้ง และถั่วให้เข้ากัน จากนั้นนำไปผัดให้แห้งในกระทะที่ลงน้ำมันมะกอกเอาไว้เล็กน้อย เมื่อเครื่องแกงเริ่มหอมให้ใส่เนื้ออกไก่ที่บดเอาไว้ลงไป ผัดจนเนื้อไก่เริ่มจะสุกเล็กน้อย ใส่มะเขือเทศลงไป ผัดพอสมควร จนเห็นว่ามะเขือเทศเริ่มเละ แล้วให้ปรึงรสตามชอบด้วย เกลือ น้ำมะขามเปียก และน้ำผึ้ง ผัดต่อจนมะเขือเทศเละเล็กน้อยตามชอบ จากนั้นยกลงรับประทานคู่กับผักสด และข้าวกล้องหุงใหม่ๆ รับรองว่ามื้อนี้ข้าวหมดอย่างแน่นอน
4. อะโวคาโด นมจืด งาดำ หรือมิกซ์เบอร์รี่ นมจืด
เมนูนี้จะให้อารมณ์เหมือนกับเป็นซีเรียลมื้อเช้าหรือของว่างก็ได้เช่นเดียวกัน สำหรับวิธีการทำนั้นก็ง่ายนิดเดียว เพียงแค่นำเอาอะโวคาโด มาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำและราดด้วยนมจืด พร้อมทั้งโรยด้วยงาดำคั่วหอมๆ เพียงแค่นี้ก็ได้มื้อเช้าแบบคลีนๆ แล้ว หรือหากใครต้องการรสชาติที่เปรี้ยวหวานขึ้นมาหน่อย อาจจะดัดแปลงเป็นมิกซ์เบอร์รี่ราดด้วยนมจืดก็ได้เช่นเดียวกัน ให้รสชาติและประโยชน์ที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว
5. ข้าวคลุกกะปิ
จริงๆ เมนูนี้ไม่เรียกว่าเป็นอาหารคลีนแน่นอน แต่หากมองในมุมของการเป็นอาหารเพื่อสุขภาพล่ะก็ถือว่าได้อยู่เหมือนกัน เพราะว่ามีเครื่องที่ประกอบไปด้วยผักและผลไม้ และที่สำคัญคือรสชาติถูกใจทุกเพศทุกวัยแน่นอน
วัตถุดิบ ข้าวกล้อง, กะปิ, น้ำมันมะกอก, ถั่วฝักยาวซอย, อกไก่ลอกหนังหั่นฝอย, เครื่องปรุง, น้ำผึ้ง, ไข่ไก่, หอมแดงซอย, พริกซอย, มะม่วงเปรี้ยวซอย แต่หากหาไม่ได้ใช้เป็นมะนาวซีกได้เช่นเดียวกัน
วิธีทำ
– ละลายกะปิในน้ำอุ่นเล็กน้อย ก่อนนำข้าวกล้องหุงสุกลงไปคลุก
– จากนั้นตั้งกระทะใส่น้ำมันมะกอกเล็กน้อย นำข้าวที่คลุกเอาไว้ลงไปผัดพอแห้ง แล้วใส่ถั่วฝักยาวที่ซอยเอาไว้ลงไปผัด จากนั้นตักขึ้นพักไว้ก่อน
– เริ่มทำไก่หวาน โดยการนำเอาอกไก่หั่นเต๋าลงไปผัดกับเครื่องปรุง แล้วตามด้วยน้ำผึ้ง ผัดให้พอสุกแล้วตักขึ้นพักเอาไว้
– เสิร์ฟข้าวคลุกกะปิ พร้อมไข่เจียวซอยและไก่หวานที่ทำเอาไว้ โดยมีเครื่องเคียงคือ พริกหั่น หอมแดง มะม่วงเปรี้ยว หรือมะนาวซีก
จะเห็นว่าอาหารเพื่อสุขภาพนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นอาหารที่จืดและจำเจเสมอไป เพราะความสุขในการทานอาหารของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนชอบอาหารรสจัด บางคนอาจจะมองที่ประโยชน์มากกว่า แต่ถ้านำเอาทั้งรสชาติและประโยชน์มารวมกันได้ การกินอาหารเพื่อสุขภาพก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
Common Mistakes When Trying To Lose Weight : https://www.bangkokhospital.com/en/content/wrong-way-loss-weight
https://www.siamhealth.net/public_html/Health/good_health_living/diet/health_plate.html
