ลดน้ำหนักให้ได้ผล กับ 10 เรื่องที่คุณอาจจะยังไม่รู้ และวิธีลดน้ำหนักเร่งด่วน
เชื่อว่าสาวๆ ทุกคนคงอยากจะให้น้ำหนักตัวที่เพิ่มสูงขึ้นลดลงได้อย่างรวดเร็วและหาวิธี ลดน้ำหนักให้ได้ผล กันทั้งนั้น แต่อาจไม่รู้ตัวเลยก็ได้ว่ากำลังใช้วิธีผิดๆ ในการลดน้ำหนักอยู่ก็เป็นได้ หลายคนอาจจะสงสัยว่าทั้งๆ ที่ก็เอาจริงเอาจังกับการออกกำลังกาย แต่ว่าทำไมน้ำหนักตัวถึงยังลดลงได้ไม่เยอะเท่าที่ควร บางคนเลือกที่จะปฏิเสธอาหารบางอย่างไปเลยเพราะคิดว่ามันจะทำให้อ้วนขึ้น หรือบางคนอาจจะไม่เข้าใจว่าทำไมควบคุมอาหารก็แล้วแต่ก็ยังลดน้ำหนักได้อย่างยากเย็น
วันนี้เราจึงมีเรื่องที่คุณอาจจะยังไม่รู้เกี่ยวกับการลดน้ำหนักมาฝากกัน เพื่อจะช่วยให้คุณมีความเข้าใจที่ถูกต้องมากขึ้น และ ลดน้ำหนักให้ได้ผล ในสิ่งที่คุณอาจจะกำลังเข้าใจผิดเกี่ยวกับการลดน้ำหนัก รวมทั้งความรู้บางอย่างที่อาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันก็สามารถช่วยในการลดน้ำหนักได้เช่นเดียวกัน
1. ออกกำลังกายไม่จำเป็นว่าจะต้องใช้เวลานาน
วิธี ลดน้ำหนักให้ได้ผล หลายคนต่างก็รู้กันดีว่าการออกกำลังกายเป็นวิธีที่จะช่วยให้ลดน้ำหนักลงได้อย่างแน่นอน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องใช้เวลากับการลดน้ำหนักอย่างหักโหมวันละเป็นชั่วโมงๆ เสียเมื่อไหร่ เพราะจากผลการศึกษาพบว่าแค่คุณใช้เวลาเพียงวันละ 30 นาที ในการออกกำลังกาย คุณก็สามารถเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าคนที่ใช้เวลาในการออกกำลังกาย 1 ชั่วโมงเสียอีก
2. การเขียนช่วยควบคุมน้ำหนักตัวได้
ใครที่ไม่อยากไปออกกำลังกาย คุณก็สามารถลดน้ำหนักได้โดยใช้เพียงแค่ปากกากับกระดาษและเขียนลงไป เพราะเมื่อคุณเขียนเรื่องยากๆ หรือมีความซับซ้อน เช่น เรื่องการเมือง ศาสนา หรือความสัมพันธ์ จะทำให้คุณมีสมาธิและสติจดจ่ออยู่กับการเขียน จึงส่งผลให้ควบคุมพฤติกรรมการกิน และลดความอยากอาหารได้ เป็นผลให้น้ำหนักตัวลดลงได้นั่นเอง
3. ทานผักก่อนทานข้าว
การรับประทานอาหารที่ถูกหลักนั้น ควรรับประทานเรียงตามลำดับ จากอาหารย่อยง่ายไปสู่อาหารที่ย่อยยากขึ้น โดยควรทานผักก่อนที่จะทานข้าว เนื่องจากผักมีไฟเบอร์ซึ่งจะช่วยชะลอการดูดซับคาร์โบไฮเดรตจากข้าวได้ เป็นเทคนิคเคล็ดลับลดความอ้วนที่มีส่วนช่วยให้การลดน้ำหนักทำได้ง่ายขึ้น
4. แปรงฟันเมื่อหิว
ถ้าคุณรู้สึกหิวขึ้นมาเมื่อไหร่ การแปรงฟันอาจช่วยคุณได้ แต่ควรเป็นยาสีฟันกลิ่นมินต์นะ เพราะจะช่วยให้ความรู้สึกอยากอาหารให้ลดน้อยลงได้ และการแปรงฟันเป็นประจำยังทำให้ปากสะอาดกลิ่นปากหอมสดชื่นอีกด้วย
5. มะพร้าวช่วยลดน้ำหนักได้
มะพร้าวเป็นอาหารอีกอย่างหนึ่งที่ถูกเข้าใจผิดว่าทำให้อ้วน แต่จริงๆ แล้วแม้มะพร้าวจะมีกรดไขมันอยู่ก็ตามแต่ร่างกายจะไม่ดูดซึมเอาไว้ และจะเผาผลาญออกไปจนไม่เหลือสะสมเอาไว้ในร่างกาย มะพร้าวจึงไม่ได้ทำให้อ้วนง่ายอย่างที่หลายๆ คนเข้าใจกัน
6. ไอศกรีมช่วยไดเอท
หากจะพูดถึงของหวานอย่างไอศกรีมแล้ว สิ่งที่หลายๆ คนมักจะคิดตามมาก็คือมันเป็นอีกหนึ่งตัวการที่จะทำให้อ้วน แต่ไม่เสมอไปอย่างไอศกรีมวานิลลา ซึ่งแม้จะมีไขมันจากนมเป็นส่วนผสมแล้วก็ยังมีโปรตีนซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบเผาผลาญในร่างกาย และยังมีวิตามินและแร่ธาตุอีกเพียบ หากทานนิดๆ หน่อยๆ ตอนท้องว่าง ไอศกรีมก็จะกลายเป็นอาหารอีกอย่างหนึ่งที่ช่วยคุณมีรูปร่างดีขึ้นได้
7. ดื่มกาแฟช่วยลดความอ้วน
ก่อนที่จะไปออกกำลังกาย หากได้ดื่มกาแฟสัก 1 แก้ว ก็จะช่วยให้เบิร์นได้ดีขึ้น เนื่องจากคาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟมีคุณสมบัติเป็น ‘เทอร์โมเจนีซีส’ (Thermogenesis) คือสารเร่งการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย ทำให้ไขมันที่สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ถูกสลายกลายเป็นพลังงานความร้อน นอกจากนี้แล้วกาแฟยังมีฤทธิ์เป็นสารขับปัสสาวะและช่วยป้องกันการเกิดอาการบวมน้ำอีกด้วย แต่กาแฟที่ดื่มควรเป็นกาแฟดำหรือใส่น้ำตาลนะ ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นเพิ่มไขมันให้มากขึ้นไปอีก
8. พักผ่อนไม่เพียงพอทำให้อ้วน
หากไม่ได้นอนหลับพักผ่อนอย่างพอเพียงก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่จะทำให้อ้วน เนื่องจากคนที่นอนน้อยหรือขาดการพักผ่อนอย่างพอเพียง จะมีผลให้ฮอร์โมนเกรลินซึ่งเป็นฮอร์โมนกระตุ้นความหิวเพิ่มระดับสูงขึ้น ทำให้คนที่นอนน้อยมักจะหิวบ่อย กินเยอะ จึงอ้วนได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
9. ลดอาหารประเภทมันหรือทอด
อาหารประเภทของมันหรือของทอดเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับหลายๆ คน เพราะรสชาติที่อร่อยและทานง่าย อย่างไรก็ตาม อาหารพวกนี้อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ เพราะมีไขมันและแคลอรีสูง และเป็นเมนูอาหารที่ทำให้อ้วนอีกด้วย ที่สำคัญยังอาจเป็นอันตรายต่อระดับคอเลสเตอรอลของคุณ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคต่างๆ และอันตรายต่อหลอดเลือดแดงรวมถึงเป็นแหล่งของไขมันที่เป็นอันตรายซึ่งอาจทำให้เกิดโรคหัวใจได้ ดังนั้นควรจำกัดปริมาณการกินและแทนที่ด้วยทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพหรือเปลี่ยนไปใช้วิธีทอดด้วยน้ำ ปิ้ง หรือนึ่งแทน
10. อดอาหารแล้วจะไม่ทำให้อ้วน
การอดอาหารเป็นวิธีลดความอ้วนอย่างหนึ่งที่หลายๆ คนเลือกใช้ แต่ทว่าเมื่อคุณอดอาหารก็จะทำให้ร่างกายคุณขาดพลังงาน แล้วคุณก็จะเริ่มรู้สึกหิวโหย จากนั้นร่างกายก็จะต้องกักเก็บพลังงานเอาไว้ใช้ในสิ่งที่จำเป็น ส่งผลให้ระบบการเผาผลาญอาหารทำงานช้าลงและด้อยประสิทธิภาพลง นอกจากนี้แล้วการที่ร่างกายขาดพลังงาน ทำให้จำเป็นที่จะต้องไปดึงสารอาหารจากกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ เอามาใช้ทดแทน เป็นเหตุให้คุณอ่อนแอลง แล้วที่นี้ระบบต่างๆ ในร่างกายก็เริ่มที่จะประท้วงเพราะความต้องการที่จะได้รับพลังงาน ซึ่งก็จะทำให้คุณหิวจนทนไม่ไหว ในที่สุดคุณก็จะกินเข้าไปอย่างเอาเป็นเอาตาย สุดท้ายก็หนีความอ้วนไม่พ้นอยู่ดี ฉะนั้นแล้ว อยากลดน้ำหนัก อดอาหาร เรียกได้ว่าเป็นวิธีการลดน้ำหนักที่ไม่ควรอย่างยิ่ง
การปรับแก้พฤติกรรมที่เราเข้าใจผิดเกี่ยวกับการลดน้ำหนักเสียให้ถูกต้อง หรือได้นำสิ่งที่เราอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อนในเรื่องของการลดน้ำหนักไปปฏิบัติ จึงเป็นปัจจัยอีกอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้เราลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้น และเป็นวิธีที่ ลดน้ำหนักให้ได้ผล นั่นเอง
ลดน้ำหนักเร่งด่วน ต้องระวังกับ 5 เรื่องที่มักเข้าใจผิดเกี่ยวกับการออกกำลังกาย
นอกจากวิธีที่จะทำให้ ลดน้ำหนักให้ได้ผล สาวๆ ที่รู้ตัวว่ามีไขมันเพิ่มขึ้นก็มักจะหาวิธี ลดน้ำหนักเร่งด่วน กันเลยทีเดียว วิธีหนึ่งที่หลายๆคนเลือกใช้ในการสลายไขมันในร่างกายก็คือการออกกำลังกายนั่นเอง แต่ว่ากลับมีหลายคนที่มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการออกกำลังกายจนทำให้รู้สึกว่าไม่อยากที่จะไปออกกำลังเลยก็มี หรือออกกำลังกายแบบผิดๆ จนกลายเป็นว่าการออกกำลังกายไม่ให้ผลเท่าที่ควรก็มี วันนี้เราจะมาดูกันว่าอะไรบ้างที่หลายคนมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการออกกำลังกายจนทำให้การออกกำลังกายไม่ได้ผล
1. การออกกำลังกายทำให้ต้องกินเยอะขึ้น
หลายคนมีความเข้าผิดว่าหากเหนื่อยมากๆ หลังจากออกกำลังกายจะทำให้รู้สึกหิวมากจนส่งผลให้ต้องกินเยอะขึ้นด้วย หลายคนจึงไม่อยากไปออกกำลังกายเพราะกลัวอ้วน หรือจากที่ต้องการจะลดความอ้วนก็อาจทำให้อ้วนมากขึ้น ซึ่งแท้ที่จริงแล้วมันขึ้นอยู่กับประเภทของการออกกำลังกายที่แตกต่างกัน เพราะหากเป็นการออกกำลังกายประเภทที่ต้องใช้ระยะติดต่อกันเป็นเวลานานๆ ซึ่งจะต้องใช้พลังงานเยอะจึงทำให้ต้องทานเยอะกว่าคนทั่วไป แต่ไขมันก็จะถูกเผาผลาญไปจนหมดไม่เหลือสะสมอยู่ตามร่างกาย
ต่างจากการออกกำลังเพื่อสุขภาพตามปกติ ซึ่งจะใช้พลังงานน้อยกว่าจึงไม่ได้ทำให้รู้สึกหิวจนต้องกินเข้าไปมากๆ อย่างที่หลายคนคิด แต่ถ้าบางคนออกกำลังกายแล้วมีอาการหิวมาก หากเลือกกินอาหารอย่างเหมาะสมก็จะไม่ทำให้อ้วนขึ้นแต่อย่างใด
2. เหงื่อออกเยอะๆ ผอมชัวร์
การขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายของเรานั้นจะเกิดขึ้นอยู่เสมอ ในรูปของของแข็ง ของเหลว และแก๊ส หลายคนอาจคิดไปว่าการที่เหงื่อถูกขับออกมาหลังจากที่ได้ออกกำลังกาย จะทำให้ไขมันในร่างกายถูกขจัดออกไปเป็นผลให้ความอ้วนลดลงได้ ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะการเสียเหงื่อจากการออกกำลังกายของเรา เกิดจากการที่ร่างกายทำการปรับสภาพ เพื่อให้อุณหภูมิภายในร่างกายเท่ากับอุณหภูมิภายนอกนั่นเอง
ซึ่งหลายคนอาจมีคำถามว่าแล้วทำไมน้ำหนักตัวถึงลดลงได้ล่ะ นั่นก็เป็นเพราะว่าร่างกายได้ขับน้ำออกมาในรูปเหงื่อจึงมีผลให้น้ำหนักตัวลดลงได้ มิใช่การดึงเอาไขมันที่สะสมอยู่ตามส่วนตามต่างๆ ของร่างกายออกมาใช้อะไรเลย ซึ่งเจ้าไขมันที่ไม่ได้รับการแปรรูปเป็นพลังงานที่อยู่ในร่างกายของเรานั่นแหละที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เราอ้วน
3. กลัวว่าการออกกำลังกายจะทำให้มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ
สาวๆ หลายคนไม่กล้าที่จะไปออกกำลังกาย เพราะเกรงว่าการออกกำลังกายจะทำให้แขนขาดูมีกล้ามเนื้อเหมือนผู้ชาย ซึ่งจะทำให้สรีระของผู้หญิงดูไม่น่ามองสักเท่าไหร่ แต่ความจริงคือการที่คุณสาวๆ ได้ออกกำลังกายจะเป็นการเพิ่มความกระชับให้แก่กล้ามเนื้อ ทำให้ดูแข็งแรง ทรวดทรงองค์เอวแลดูได้สัดส่วนสวยงามยิ่งขึ้น การเคลื่อนไหวร่างกายก็จะดูคล่องแคล่วมากขึ้น ทำให้บุคลิกภาพดีขึ้น และยังทำให้มั่นใจในตนเองมากขึ้น
ยิ่งตอนนี้กระแสใส่ใจสุขภาพกำลังได้รับความนิยม นอกจากการออกกำลังกายจะช่วยให้คุณสาวๆ ลดน้ำหนักได้แล้ว ยังช่วยให้ดูเป็นสาวรักสุขภาพมากขึ้นอีกด้วย โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าจะมีกล้ามเนื้อใหญ่โตเป็นนักเพาะกายนะเพราะนั่นจะต้องผ่านการฝึกฝนอย่างหนักและใช้ฮอร์โมนเพศชายช่วยกระตุ้นเท่านั้น
4. จะลดน้ำหนักต้องออกกำลังกายแบบหักโหม
ความหมายของการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักจริงๆ ก็คือ การที่ร่างกายได้ใช้พลังงานหรือเผาผลาญจนกระทั่งไปดึงเอาไขมันที่สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายมาใช้แทน ซึ่งก็จะทำให้มีไขมันลดน้อยลงหรือมีน้ำหนักตัวลดลงนั่นเอง แต่เนื่องจากใครๆ ก็อยากที่จะผอมไวๆ ด้วยกันทั้งนั้น เพราะฉะนั้นขอออกกำลังกายแบบหักโหมเอาเป็นเอาตายไปเลยก็แล้วกัน เพราะไขมันที่สะสมอยู่จะได้ถูกเอามาใช้แล้วจะได้ผอมลงเร็วๆ ซึ่งผลที่ตามมาหลังจากที่คุณผ่านการออกกำลังแบบหักโหมหรือบ้าพลังจนเกินพอดีก็คือ คุณอาจจะเกิดอาการโหยหิวอาหารอย่างหนักภายหลังจากออกกำลังกาย
จนในที่สุดคุณก็จะห้ามใจไม่ไหวมีเท่าไหร่ๆ ก็กินหรือคุณอาจจะเกิดอาการเดี้ยงในวันต่อมา เนื่องจากร่างกายซ่อมแซมอาการบาดเจ็บไม่ทันหรือที่ร้ายกว่านั้นคุณอาจจะเหนื่อยมากจนเป็นลมหรือหัวใจวายเอาได้เลยทีเดียว ทางที่ดีและได้ผลจริงคือ คุณควรจะได้ออกกำลังแบบค่อยเป็นค่อยไป เริ่มจากทีละน้อยๆ แต่ทำเป็นประจำสม่ำเสมอจะดีกว่า
5. ให้หยุดพักทันทีหากออกกำลังกายจนเหนื่อยมาก
ภายหลังที่ได้ออกกำลังกายลดน้ำหนักมาเป็นอย่างหนักแล้วรู้สึกเหนื่อยมากจึงหยุดพักทันทีเลยนั้น จะเป็นอันตรายทั้งการหยุดแล้วยืนเท่านั้นและการนั่งลงโดยทันที เพราะในระหว่างที่ออกกำลังกายอย่างหนักหน่วงนั้น หัวใจก็ทำการสูบฉีดเลือดเพิ่มขึ้นเพื่อส่งเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ที่ใช้ในการออกกำลังกาย ซึ่งในเวลาเดียวกันกล้ามเนื้อที่ได้รับเลือดมาจนเต็มที่ก็จะหดตัว บีบเอาเลือดที่ใช้แล้วส่งกลับคืนไปยังหัวใจมากขึ้นเช่นกัน
แต่หากเราหยุดออกกำลังกายอย่างทันทีทันใด กล้ามเนื้อที่อยู่ในระหว่างทำงานไม่อาจจะหดตัวบีบเลือดกลับสู่หัวใจได้ ก็จะทำให้เลือดเป็นจำนวนมากไปคั่งอยู่ที่บริเวณกล้ามเนื้อขณะที่หัวใจยังคงเต้นเร็วและแรงไม่ได้รับเลือดอย่างเพียงพอก็จะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้และหากร้ายแรงก็อาจถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้เลยทีเดียว ซึ่งที่ถูกต้องแล้ว เมื่อได้ออกกำลังกายเป็นอย่างหนักแล้วคิดจะหยุด ควรเคลื่อนไหวร่างกายต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง จนกว่าอัตราการเต้นของหัวใจจะลดต่ำลง
การออกกำลังกายนั้นย่อมส่งผลดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้ก็ควรมีความเข้าใจที่ถูกต้องและมีหลักในการออกกำลังกายอย่างถูกวิธีด้วยเช่นกัน การออกกำลังกายจึงจะส่งผลได้อย่างมีประสิทธิภาพและ ลดน้ำหนักให้ได้ผล
วิธีการลดความอ้วน 5 ท่าโยคะลดความอ้วน แม้อยู่บ้านก็ผอมได้
สาวๆ ในยุคปัจจุบันนี้มีความเสี่ยงที่จะเกิดความอ้วนได้ง่ายขึ้น เพราะวิถีชีวิตที่ต้องแข่งกับเวลาวันๆ ยุ่งอยู่แต่กับงาน จะไปออกกำลังกายหรือเวลาว่างก็แทบไม่ค่อยมี จะให้เอาใจใส่ดูแลสุขภาพเหรอก็หาเวลาได้ค่อนข้างยากเย็น แถมอาหารการกินก็ขยันคิดเมนูใหม่ๆ กันออกมายั่วตายั่วใจ แล้วอย่างนี้ใครจะอดใจได้ สุดท้ายน้ำหนักตัวมันก็ขึ้นเอาๆ จนไม่รู้จะทำยังไงดี
หมดห่วงไปได้เลยสำหรับสาวๆ ที่ไม่มีเวลาไปเข้าฟิตเนส เพราะการทำโยคะลดน้ำหนักเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สาวๆ สามารถทำเองได้ที่บ้าน แถมยังทำง่ายไม่ยากเย็น และยังช่วยขจัดไขมันที่สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายให้ลดลงได้อีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้นนะการเล่นโยคะยังช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้เป็นอย่างดี ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อมีความกระชับยืดหยุ่น และยังช่วยลดความเมื่อยล้าตามส่วนต่างๆ ของร่างกายอีกด้วย ซึ่งจะมีท่าอะไรบ้างนั้น วันนี้เราก็นำเอามาฝากกันด้วย มาดูกันเลยดีกว่า
1. ท่าหน้าวัว
ประโยชน์ : สำหรับท่าหน้าวัวจะช่วยในการลดไขมันส่วนเกินบริเวณท้องแขน
วิธีฝึก : เริ่มจากนั่งให้หลังตรง ขาทั้งสองข้างแนบชิดติดกันเหยียดตรงไปข้างหน้า พับเท้าซ้ายเข้าหาตัวคล้ายๆ กับจะเริ่มนั่งสมาธิ แล้วเอาขาขวาทับขาซ้ายให้กระดูกหัวเข่าขวาทับกระดูกหัวเข่าซ้ายพอดี ให้หัวเข่าที่ซ้อนทับกันนั้นอยู่บริเวณกึ่งกลางของตัวเราตรงกับสะดือพอดี
ไขว้แขนซ้ายไปทางด้านหลังโดยที่ปลายมือข้างซ้ายจะอยู่ที่หัวไหล่ขวา ชูมือขวาขึ้นแล้วพับลง พยายามให้มือขวาเกี่ยวกับมือซ้ายให้มากที่สุด หากทำไม่ได้ให้ใช้ผ้าช่วยก็ได้ ให้อยู่ในท่านี้ประมาณ 30 วินาทีแล้วทำใหม่โดยให้แขนและขาสลับข้างกัน
2. ท่าบิดลำตัว
ประโยชน์ : นอกจากจะช่วยในเรื่องของการผ่อนคลายกล้ามเนื้อแล้ว ยังช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย ลดไขมันส่วนเกินบริเวณเอว หน้าท้อง และต้นขา
วิธีฝึก : เริ่มจากนั่งยืดอกยืดหลังให้ตรง ให้ขาขวาไขว้ขาซ้ายโดยที่ขาช้ายจะสอดอยู่ใต้ขาขวา ส้นเท้าซ้ายจะอยู่ชิดติดกับสะโพกขวา และขาซ้ายจะต้องแนบไปกับพื้น ส่วนขาขวาให้ยกเท้าขวาวางข้ามเข่าซ้าย โดยที่ฝ่าเท้าขวาจะวางแนบไปกับพื้นใกล้กับสะโพกด้านซ้าย ขาขวาจะอยู่ในลักษณะตั้งขึ้น
ส่วนแขนซ้ายให้เอามารัดขาขวา โดยให้ข้อพับของแขนซ้ายรัดอยู่ที่บริเวณหัวเข่าขวา แขนขวาวางอยู่ใกล้กับลำตัวมือยันพื้นเอาไว้ หายใจเข้าลึกๆ พอหายใจออกให้บิดลำตัวไปทางด้านขวา บิดลำตัวค้างไว้ 30-60 วินาที จากนั้นให้ทำสลับข้างกัน
3. ท่าสะพาน
ประโยชน์ : ท่านี้จะช่วยลดไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้อง ต้นขาและบริหารกล้ามเนื้อหลัง
วิธีฝึก : เริ่มจากนอนหงายราบไปกับพื้น แล้วค่อยๆ ชันเข่าทั้งสองข้างขึ้นมา โดยส้นเท้าจะอยู่ใต้บริเวณหัวเข่าพอดี มือสองข้างเอาวางไว้ที่ข้างลำตัว ปลายเท้าและหัวเข่าทั้งสองข้างจะแยกออกจากกันเล็กน้อยให้พอดีกับช่วงสะโพก จากนั้นหายเข้าใจกดฝ่ามือฝ่าเท้าใช้แรงต้นขายกสะโพกขึ้นมาให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนอกจะถูกดันไปหาคาง หากใครรู้สึกว่าก้นหย่อนลงให้ใช้มือค้ำที่สะโพกได้ หายใจออกแล้วค่อยๆ วางตัวลงกับพื้นทำซ้ำประมาน 4 ครั้ง
4. ท่ายืดส่วนหลัง
ประโยชน์ : ท่ายืดส่วนหลังจะช่วยกระตุ้นการขับถ่ายให้ดีขึ้น ช่วยในการบริหารกล้ามเนื้อส่วนหลังและต้นขา
วิธีฝึก : เริ่มจากนั่งหลังตรง แล้วยืดขาทั้งสองข้างออกไปด้านหน้า เกร็งปลายเท้าทั้งสองข้างให้อยู่ในลักษณะตั้งฉาก หายใจเข้าชูแขนทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะ หายใจออกแล้วค่อยๆ ก้มตัวลง เกร็งกล้ามช่วงเอว แล้วใช้นิ้วชี้เกี่ยวนิ้วโป้งเท้า ค่อยๆ ก้มตัวลงอีก พยายามดึงปลายนิ้วเท้าเข้าหาลำตัว อยู่ในท่านี้ประมาณ 30 วินาที จากนั้นค่อยๆ ยืดตัวขึ้น ส่วนคนที่ไม่สามารถเกี่ยวนิ้วได้ ให้จับบริเวณใต้เข่าแทนและก้มตัวเท่าที่ทำได้
5. ท่าเรือ
ประโยชน์ : ท่านี้จะช่วยลดไขมันหน้าท้อง ช่วยสร้างกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้อง และช่วยให้หน้าท้องกระชับขึ้น
วิธีฝึก : นั่งตัวตรงหลังตรงชันเข่าทั้งสองข้างขึ้นมา ใช้ปลายนิ้วมือทั้งสองข้างแตะที่พื้นโดยยื่นไปข้างหน้าลำตัวเล็กน้อย สูดหายใจเข้าลึกๆ หายใจออก ยกขาทั้งสองให้สูงขึ้นปลายเท้าทั้งสองข้างจะยื่นออกไปข้างหน้าขนานกับพื้น โดยที่ลำตัว ช่วงก้น จนถึงหัวเข่าจะมีลักษณะเหมือนรูปตัว v มือทั้งสองข้างยังแตะอยู่กับพื้น ยกปลายเท้าให้สูงขึ้นอีกจนขาเหยียดตึง ยื่นแขนทั้งสองข้างออกไปให้เหยียดตรงขนานกับพื้น โดยที่ตัวจะมีลักษณะเป็นรูปตัว v ทำค้างไว้ประมาณ 50 วินาที แล้วจึงค่อยๆ ลดมือลงแตะพื้น ลดขาลงตามลำดับ
รู้กันแล้วนะว่าท่าโยคะที่จะช่วยให้คุณสาวๆ ลดน้ำหนักให้ได้ผล มีอะไรบ้าง แต่ถ้ารู้ไว้เฉยๆ แต่ไม่เคยได้ใช้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรนะ เพราะงั้นหวังว่าสาวๆ จะเอาไปฝึกทำกันเป็นประจำนะ แต่ยังไงก็ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างพอเพียงแก่ความต้องการควบคู่กันไปด้วยนะ เพราะจะช่วยให้คุณสาวๆ มีหุ่นสวยและมีสุขภาพแข็งแรงด้วยยังไงล่ะ
อ้างอิง
How to Lose Weight Fast – An Expert’s Guide : https://www.healthifyme.com/blog/how-to-lose-weight-fast/
https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/1573383
